ทัวร์ต่างประเทศ : คาซัคสถาน KAZAKHSTAN
ทัวร์คาซัคสถาน เที่ยวคาซัคสถาน แพคเกจทัวร์คาซัคสถาน ข้อมูลคาซัคสถาน
TOUR KAZAKHSTAN
ทัวร์ต่างประเทศ : ประเทศคาซัคสถาน KAZAKHSTAN
ทัวร์คาซัคสถาน เที่ยวคาซัคสถาน แพคเกจทัวร์คาซัคสถาน ข้อมูลคาซัคสถาน
ข้อมูลทัวร์คาซัคสถาน
คาซัคสถาน (อังกฤษ: Kazakhstan; คาซัค: Қазақстан, Qazaqstan [qɑzɑqˈstɑn]; รัสเซีย: Казахстан, Kazakhstán [kɐzəxˈstɐn]) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐคาซัคสถาน (อังกฤษ: Republic of Kazakhstan) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีพื้นที่ครอบคลุมกว้างขวางในทวีปเอเชีย และเป็นสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศในเอเชียกลาง ได้แก่ คีร์กีซถาน อุซเบกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน และมีชายฝั่งบนทะเลแคสเปียน คาซัคสถานเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก อย่างไรก็ดี มีพื้นที่กึ่งทะเลทราย (steppe) อยู่มาก จึงมีประชากรเป็นอันดับที่ 57 มีประมาณ 6 คน/ตร.กม.
View ทัวร์คาซัคสถาน TOUR KAZAKHSTAN MAP in a larger map
คาซัคสถานเคยเป็นดินแดนของรัสเซียมานาน ภายหลังวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1991 ก็ประกาศเอกราชจากรัสเซียและก่อตั้งประเทศคาซัคสถาน
การเมือง
ประเทศคาซัคสถานแบ่งออกเป็น 14 จังหวัด (provinces - oblystar) และ 3 เทศบาลนคร (cities - qalalar) ทุกจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัด (Akim) ที่แต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ส่วนอะคิมของเทศบาลได้รับการแต่งตั้งจากอะคิมของแคว้น (oblasts) รัฐบาลคาซัคสถานย้ายเมืองหลวงจากอัลมาตีไปอัสตานา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2541
ไปอัสตานา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2541
หมายเลข |
รหัสภูมิศาสตร์ |
เขตการปกครอง |
เมืองหลวง |
เนื้อที่
(ตร.กม.) |
จำนวนประชากร |
1 |
KZ-ALM |
จังหวัดอัลมาตี (Almaty) |
ตัลดีคอร์กัน (Taldykorgan) |
224,000 |
860,000 |
2 |
|
นครอัลมาตี (Almaty) |
|
|
|
3 |
KZ-AKM |
จังหวัดอัคโมลา (Aqmola) |
คอคเชตาอู (Kokshetau) |
121,400 |
829,000 |
4 |
KZ-AKT |
จังหวัดอัคเตอเบ (Aqtöbe) |
อัคเตอเบ (Aqtöbe) |
300,600 |
661,000 |
5 |
|
กรุงอัสตานา (Astana) |
|
|
|
6 |
KZ-ATY |
จังหวัดอะตีราอู (Atyrau) |
อะตีราอู (Atyraū) |
118,600 |
380,000 |
7 |
|
นครไบโคนูร์ (Baikonur) |
|
|
|
8 |
KZ-VOS |
จังหวัดอีสต์คาซัคสถาน
(East Kazakhstan) |
เอิสเคเมน (Öskemen) |
283,300 |
897,000 |
9 |
KZ-MAN |
จังหวัดมังกืย์สตาอู (Mangghystau) |
อัคตาอู (Aqtau) |
165,600 |
316,847 |
10 |
KZ-SEV |
จังหวัดนอร์ทคาซัคสถาน
(North Kazakhstan) |
เปโตรปัฟล์ (Petropavl) |
123,200 |
586,000 |
11 |
KZ-PAV |
จังหวัดปัฟโลดาร์ (Pavlodar) |
ปัฟโลดาร์ (Pavlodar) |
124,800 |
851,000 |
12 |
KZ-KAR |
จังหวัดคารากันดี
(Qaraghandy) |
คารากันดี (Qaraghandy) |
428,000 |
1,287,000 |
13 |
KZ-KUS |
จังหวัดคอสตาไน (Qostanay) |
คอสตาไน (Qostanay) |
196,000 |
975,000 |
14 |
KZ-KZY |
จังหวัดคืยซิลออร์ดา (Qyzylorda) |
คืยซิลออร์ดา (Qyzylorda) |
226,000 |
590,000 |
18 |
KZ-YUZ |
จังหวัดเซาท์คาซัคสถาน
(South Kazakhstan) |
ชิมเคนต์ (Shymkent) |
118,600 |
1,644,000 |
16 |
KZ-ZAP |
จังหวัดเวสต์คาซัคสถาน
(West Kazakhstan) |
โอรัล (Oral) |
151,300 |
599,000 |
17 |
KZ-ZHA |
จังหวัดจัมบิล (Zhambyl) |
ตารัซ (Taraz) |
144,000 |
962,000 |
ในปี พ.ศ. 2538 รัฐบาลคาซัคสถานและรัสเซียได้ทำข้อตกลงให้รัสเซียเช่าพื้นที่ 6,000 ตร.กม. ล้อมรอบฐานปล่อยจรวดที่ไบกอนกีร์ (หรือไบโคนูร์) และเมืองไบโคนูร์ (เดิม เลนินสค์) เป็นเวลา 20 ปี
ภูมิศาสตร์
ด้วยพื้นที่ 2.7 ล้านตารางกิโลเมตร (1.56 ล้านตารางไมล์) คาซัคสถานจึงเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 9 ของโลก โดยมีขนาดพอ ๆ กับภูมิภาคยุโรปตะวันตก
เมืองใหญ่ของประเทศได้แก่ อัสตานา (เป็นเมืองหลวงตั้งแต่มิถุนายน พ.ศ. 2541) อัลมาตี (อดีตเมืองหลวง เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อัลมา-อะตา (Alma-Ata) และก่อน พ.ศ. 2460 (1917) ในชื่อเวียร์นืย) การากันดี ชิมเคนต์ เซเมย์ (เซมีปาลาตินสค์) และตูร์เคสถาน เคยเป็นที่รู้จักในชื่อ ยาซี
ลักษณะภูมิประเทศแผ่ขยายจากตะวันออกจดตะวันตก ตั้งแต่ทะเลสาบแคสเปียนจนถึงแอ่งทาริม (ซินเจียง) และเทือกเขาอัลไต และจากเหนือจดใต้ ตั้งแต่ที่ราบไซบีเรียตะวันตกจนถึงโอเอซิสและทะเลทรายของภูมิภาคเอเชียกลาง
ลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบภาคพื้นทวีป มีฤดูหนาวที่หนาวเย็นและฤดูร้อนแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง
ความยาวของพรมแดน: รัสเซีย 6,846 กิโลเมตร, อุซเบกิสถาน 2,203 กิโลเมตร, จีน 1,533 กิโลเมตร, คีร์กีซสถาน 1,051 กิโลเมตร และเติร์กเมนิสถาน 379 กิโลเมตร
- แม่น้ำและทะเลสาบสำคัญได้แก่
อัลมาตี เมืองที่ใหญ่ที่สุดของคาซัคสถาน
คอนเสิร์ตเซ็นทรัลคาซัคสถาน
เศรษฐกิจ
โครงสร้างทางเศรษฐกิจ
คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต มีทรัพยากรที่สำคัญเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำมันดิบ แร่ธาตุ ตลอดจนยังมีขีดความสามารถทางการเกษตรอันเนื่องมาจากพื้นที่สำหรับเพาะปลูกและทำปศุสัตว์ที่กว้างขวาง
ก่อนปี พ.ศ. 2533 ระบบเศรษฐกิจคาซัคสถานเป็นส่วนหนึ่งของระบบการแบ่งการผลิตของสหภาพโซเวียต โดยถูกกำหนดให้มีความชำนาญด้านเกษตรกรรม ตามโครงการดินแดนบริสุทธิ์ฮรุชชอฟ (Khrushchev Virgin Lands) ส่วนอุตสาหกรรมหลักขึ้นอยู่กับการขุดเจาะน้ำมันและการทำเหมืองแร่ การผสมโลหะ และการสกัดแร่ธาตุ ตลอดจนการผลิตเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น เครื่องมือก่อสร้าง รถแทรกเตอร์ และเครื่องมือเครื่องใช้ในการเกษตร
ภายหลังการสลายตัวของสหภาพโซเวียต ความต้องการสินค้าเครื่องจักรกลหนักซึ่งเป็นสินค้าหลักของคาซัคสถานได้ลดลง ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมากระหว่างปี พ.ศ. 2534-2537 อัตราเงินเฟ้อสูงและมูลค่า Real GDP ลดลงมากกว่าร้อยละ 5 ระหว่างปี พ.ศ. 2538-2540 รัฐบาลคาซัคสถานได้ปฏิรูประบบเศรษฐกิจและแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ตกสู่ภาคเอกชน อัตราการเจริญเติบโตของประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ในปี พ.ศ. 2539 คาซัคสถานได้เข้าร่วมเป็นภาคีความร่วมมือก่อสร้างท่อส่งน้ำมันในทะเลแคสเปียน ซึ่งส่งผลให้สามารถส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น
ในปี พ.ศ. 2541 สภาวะการตกต่ำของราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของคาซัคสถานตกต่ำลงชั่วขณะ แต่หลังจากปี พ.ศ. 2542 ราคาน้ำมันได้ถีบตัวสูงขึ้น ประกอบกับการลดค่าเงินที่ถูกจังหวะและการเกษตรที่ได้ผลดี ทำให้ภาวะเศรษฐกิจคาซัคสถานเจริญเติบโต
ภาคเกษตรกรรม
เกษตรกรรมเป็นภาคอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากที่สุด คิดเป็นหนึ่งในสามของการส่งออก หรือ ร้อยละ 20-25 ของแรงงานภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตหลักได้แก่ เมล็ดพันธุ์พืช
แต่การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ไม่แน่นอนและการปฏิรูประบบเศรษฐกิจอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ทำให้การเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์พืชที่เคยสูงสุดในปี พ.ศ. 2535 กลับตกต่ำที่สุดในปี พ.ศ. 2538 และการผลิตภาคการเกษตรซึ่งเคยมีส่วนแบ่งรายได้ประชาชาติร้อยละ 23 ในปี พ.ศ. 2532 กลับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.6 ในปี พ.ศ. 2543 ส่วนภาคการบริการที่ถูกละเลยภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ กลับมีการขยายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนับแต่ได้รับเอกราช
ส่วนด้านการค้า ที่อยู่อาศัย และการคมนาคม ก็มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นกัน สำหรับการลงทุนนั้นมีมูลค่าร้อยละ 19 ของ GDP โดยหนึ่งในสี่ของการลงทุนนั้น มาจากบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันและโลหะ
การครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
การโอนธุรกิจที่ดินให้เป็นของภาคเอกชนดำเนินไปอย่างช้า ๆ และรัฐบาลอนุญาตให้ชาวคาซัคเท่านั้นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเกษตรกรรมได้ ในกรณีที่ชาวต่างชาติและประชาชนทั่วไปต้องการครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินอื่น ๆ จะต้องมีบ้านหรือทรัพย์สินอยู่บนที่ดินผืนนั้น ส่วนที่ดินนอกเหนือจากนั้นถูกครอบครองโดยภาครัฐ
การปฏิรูปเศรษฐกิจ
ประธานาธิบดีนาซาร์บาเยฟได้นำความล้มเหลวและข้อผิดพลาดของการปฏิรูปเศรษฐกิจในยุโรปตะวันออกมาเป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจแบบตะวันตก ด้วยการปฏิเสธบทบาทของรัฐในระบบเศรษฐกิจและนำกลไกตลาดมาใช้ทันทีโดยมิได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สามารถรองรับการพัฒนาของระบบอย่างสอดคล้องกันเสียก่อน ด้วยเหตุนี้ คาซัคสถานจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินบทบาทของรัฐในการควบคุม การผลิต การหมุนเวียนเงินทุน และการดำเนินความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศต่อไป พร้อมทั้งผสมผสานกลไกของรัฐและกลไกตลาดเข้าด้วยกัน
สภาพเศรษฐกิจของคาซัคสถานกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาไปสู่ระบบการตลาดแบบเสรี ในปี พ.ศ. 2539 คาซัคสถานเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและมีเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น สังเกตได้จากอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคลดลงเหลือเพียงร้อยละ 39.1 ในปี พ.ศ. 2539 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2538 ที่มีอัตราร้อยละ 175 และปี พ.ศ. 2537 ที่มีอัตราถึงร้อยละ 1,900 ส่วนอัตราการว่างงานนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็ยังมีความเปราะบางอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมผลิตเหล็กและเหมืองแร่ยังตกต่ำอยู่ เพราะขาดแคลนเงินทุนและปัจจัยในการผลิต ทำให้มีส่วนเกินของแรงงานและประสิทธิภาพ ส่วนทางภาคเกษตรกรรมนั้น ผลผลิตก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่คาดหมายกันไว้ การลงทุนขุดเจาะน้ำมันที่บ่อน้ำมัน Tengiz ของคาซัคสถาน ซึ่งรัฐบาลคาซัคสถานลงทุนร่วมกับบริษัท Chevron ของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของรัสเซียที่จะจำกัดการส่งออกน้ำมันของคาซัคสถานผ่านท่อส่งน้ำมันของตน โดยล่าสุด บ่อน้ำมัน Tengiz สามารถส่งออกน้ำมันได้เพียง 880,000 บาร์เรลต่อเดือนเท่านั้น ในขณะที่เป้าหมายการผลิตในปี พ.ศ. 2540 คือ 30,000 บาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ตาม คาซัคสถาน รัสเซีย ตุรกี อาเซอร์ไบจาน และสหรัฐอเมริกา ก็ได้ร่วมกันหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการส่งออกน้ำมันผ่านท่อของประเทศต่าง ๆ ของคาซัคสถานแล้ว เนื่องจากคาซัคสถานมีโครงการสร้างท่อขนส่งน้ำมันและแก๊สผ่านรัสเซีย ไปยังชายฝั่งทะเลดำ โดยได้เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2541 และจะสิ้นสุดโครงการภายในสิ้นปี พ.ศ. 2543 แต่เส้นทางที่ท่อส่งน้ำมันและก๊าซผ่านนั้น เป็นประเทศคู่แข่งทางด้านนี้กับคาซัคสถานทั้งสิ้น เช่น อาเซอร์ไบจาน อิหร่าน และรัสเซีย และต้นทุนของการสร้างท่อก็มีราคาแพง ซึ่งในระยะยาวแล้ว คาซัคสถานจะต้องให้ความคุ้มครองแก่เส้นทางของท่อส่งออกน้ำมันและแก๊สทั้งด้านการค้าและการเมือง
เท่าที่ผ่านมา ประเทศที่ดูจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในการดำเนินธุรกิจน้ำมันกับคาซัคสถาน ได้แก่ ตุรกี ซึ่งบรรลุข้อตกลงกับคาซัคสถานที่จะร่วมกันพัฒนาบ่อน้ำมันและแก๊สธรรมชาติในคาซัคสถานถึง 7 แห่ง โดยตุรกีจะได้รับส่วนแบ่งเป็นน้ำมันจำนวน 2.1 พันล้านบาร์เรลและแก๊สธรรมชาติจำนวน 208.9 พันล้านลูกบาศก์เมตร คาซัคสถานมีน้ำมันสำรองถึง 2.5% ของปริมาณน้ำมันโลก และคาดว่าภายในปี 2560 จะติดอันดับ 1 ใน 10 ผู้ส่งออกน้ำมัน [1]
สำหรับการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ คาซัคสถานจะต้องแก้ปัญหาการทุจริตและปัญหาความไม่โปร่งใสของการลงทุน ซึ่งพบอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะการครอบครองด้านเศรษฐกิจโดยกลุ่มผู้จัดการน้ำมันที่มีอำนาจทางการเมือง จะทำให้รัฐบาลมีรายได้จากการเก็บภาษีน้อยลง
สถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน
ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจของรัสเซีย คาซัคสถานได้รับการกล่าวถึงจากนานาชาติค่อนข้างดี ในแง่ของความพยายามและผลของการพัฒนาประเทศ แต่โดยที่รัสเซียเป็นประเทศคู่ค้าหลักของคาซัคสถาน จึงทำให้คาซัคสถานได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2542 รัฐบาลและธนาคารชาติคาซัคสถานได้ประกาศจะยุติการแทรกแซงเพื่อพยุงอัตราการแลกเปลี่ยนของเงินเต็งเก (Tenge) และปล่อยค่าเงินลอยตัว เพื่อให้สินค้าของคาซัคสถานสามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่นที่ได้ลดค่าเงินในตลาดโลกได้ ทั้งนี้ ค่าเงินเต็งเกอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ 88 เต็งเก ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2542 จนเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2546 อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 146.37 เต็งเก
อย่างไรก็ดี คาซัคสถานได้พัฒนาระบบการเงินการธนาคารเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจและการเงิน จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2543 คาซัคสถานเป็นประเทศแรกของอดีตสหภาพโซเวียตที่สามารถจ่ายชำระหนี้คืนแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ล่วงหน้าก่อนกำหนดถึง 7 ปี และในปี พ.ศ. 2545 ได้มีความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในด้านการวางแผนระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับภาษีและระบบการคลังมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก
น้ำมันและแก๊สธรรมชาติยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศ ทั้งนี้ มีการพิสูจน์แล้วว่าคาซัคสถานเป็นแหล่งสำรองน้ำมันของโลกร้อยละ 2.5 และจะสามารถผลิตน้ำมันได้วันละ 3 ล้านบาร์เรลภายในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะทำให้คาซัคสถานอยู่ในกลุ่ม 1 ใน 10 ของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันของโลก
ประชากร
ชนชาติในคาซัคสถาน |
เชื้อชาติ |
|
|
% |
|
คาซัค |
|
53.4% |
รัสเซีย |
|
30% |
ยูเครน |
|
3.7% |
เยอรมัน |
|
2.4% |
อุซเบก |
|
2.5% |
ตาตาร์ |
|
1.7% |
อุยกูร |
|
1.4% |
เกาหลี |
|
0.7% |
อื่นๆ |
|
4.2% |
ศาสนาในคาซัคสถาน |
ศาสนา |
|
|
เปอร์เซ็น |
|
อิสลาม |
|
70.2% |
คริสต์ |
|
26.2% |
อื่นๆ |
|
3.6% |
เริ่มจากชนเผ่าเร่ร่อนเชื้อสายผสมมองโกล-เตอร์กิช เรียกตนเองว่า "คาซัค" ชาวคาซัคส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย [1]คาซัคสถานมีจำนวนประชากร 16,741,519 คน (พ.ศ. 2545)
เชื้อชาติ
ศาสนา
ยู. แทรเวล วาเคชั่นส์ บริษัททัวร์ต่างประเทศชั้นนำ ให้บริการ ทัวร์คาซัคสถาน จัดนำเที่ยวคาซัคสถาน แพคเกจทัวร์คาซัคสถาน รถทัวร์คาซัคสถาน ข้อมูลท่องเที่ยวคาซัคสถาน ตั๋วเครื่องบินสู่ประเทศคาซัคสถาน จองโรงแรมที่พักคาซัคสถาน จัดประชุมสัมนาที่ประเทศคาซัคสถาน งานแสดงสินค้าที่ประเทศคาซัคสถาน
โทร. 02 - 428 2114 แฟกซ์ 02 - 428 2125
อีเมล์ u.travel@hotmail.com
เว็บไซต์ https://www.utravel.in.th
ทัวร์ต่างประเทศ : ประเทศ คาซัคสถาน KAZAKHSTAN
โปรแกรมทัวร์คาซัคสถาน เที่ยวคาซัคสถาน แพคเกจทัวร์คาซัคสถาน ประจำเดือน |
* ทัวร์คาซัคสถาน เดือนมกราคม |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนกุมภาพันธ์ |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนมีนาคม |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนเมษายน |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนพฤษภาคม |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนมิถุนยน |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนกรกฎาคม |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนสิงหาคม |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนกันยายน |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนตุลาคม |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนพฤศจิกายน |
* ทัวร์คาซัคสถานเดือนธันวาคม |