22 วัน (บราซิล – เปรู –ชิลี – เกาะอีสเตอร์– อาร์เจนตินา)
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส TK
CODE TOUR : SA150322FF
5 – 26 มีนาคม 2019
399,900 บาท
เซาเปาโล - ริโอเดอจาเนโร - เคเบิ้ลคาร์ขึ้น ชูการ์โลฟ - พระเยซูคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก – ชมขบวนคาร์นิวัล รอบแชมเปี้ยน น้ำตกอิกวาสุ (2 ฟากฝั่งทั้ง บราซิลและอาร์เจนตินา) – ล่องเรือเจทมาคูโค – ลิมา (เปรู) ถิ่นกำเนิดจักรวรรดิอินคา– คูซโก้
มาชูปิคชู – ชิลี – ซานเตียโก – บัลปาราอีโซ – เกาะอีสเตอร์ – รูปปั้นโมอาย - บัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา) – เอลคาลาฟาเต้ ธารน้ำแข็งเปอร์ริโต โมริโน
5 มีนาคม 2019 กรุงเทพ –อิสตันบูล
20.30 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.45 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
6 มีนาคม 2019 อิสตันบูล – เซาเปาโล (พักค้าง 2 คืน)
05.40 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูลแวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน TK15 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินอิสตันบูล ตามอัธยาศัย
09.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล (IST) สู่ สนามบินเซาเปาโล (GRU) ประเทศบราซิล
โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (ใช้เวลาบินประมาณ 13 ชั่วโมง 40 นาที)
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
สายการบินมีบริการอาหารเช้า และ อาหารกลางวันบนเครื่องบิน
19.10 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ เซาเปาโล (GRU) ประเทศบราซิล
นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศสู่โรงแรมที่พัก เพื่อให้ท่านได้พักผ่อนและปรับเวลา หลังผ่านการเดินทางข้ามทวีปสู่ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Pestana Sao Paulo Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
7 มีนาคม 2019 เซาเปาโล
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสู่จตุรัสเซ (Se Square) ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมืองเซาเปาโล และ เป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองเป็นโบสถ์สไตล์โกธิคสวยงามมาก นอกจากนี้ยังเป็นจตุรัสที่ตั้งของโรงละคร ศูนย์กลางสถานีรถไฟใต้ดินของเมืองเซาเปาโล นำท่านสู่ เซา ฟรานซิสโก้ สแควร์ (Sao Francisco Square) ซึ่งเป็นเมืองตั้งอยู่ในเขต เซา คลิสโตโว (Sao Cristovao) ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.2010 เมืองแห่งนี้มีลักษณะโดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบบาโร๊ค และบ้านเรือนที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18-19 สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิตและศิลปะวัฒนธรรมของชาวบราซิลในอดีต นำท่านชมโบสถ์เซาฟรานซิสโก (Sao Francisco Church) และแวะถ่ายรูปกับ Santa Casa da Misericordia ซึ่งเป็นที่พำนักของขุนนางในสมัยก่อน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเอเซีย
บ่าย นำท่านชมเมืองเซาเปาโล เมืองหลวงของรัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลกตามจำนวนประชากร ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่งที่สุดในประเทศ ชื่อเซาเปาโลเป็นภาษาโปรตุเกส มีความหมายว่า "นักบุญพอล" ทั้งนี้เมืองเซาเปาโลได้ชื่อว่า “นิวยอร์กแห่งละตินอเมริกา” เนื่องจากเป็นเมืองธุรกิจ ศูนย์กลางการค้าและการลงทุน นำท่านผ่านชมและแวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ทำเนียบผู้ว่าการรัฐ มหาวิทยาลัยของรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ย่านธุรกิจการค้า โรงพยาบาลอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นโรงพยาบาลที่ดีและทันสมัยที่สุดในอเมริกาใต้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Pestana Sao Paulo Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
8 มีนาคม 2019 ริโอเดอจาเนโร – รูปปั้นของพระเยซู Christ of Redeemer
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เซาเปาโล เพื่อเดินทางสู่ กรุง ริโอเดอจาเนโร
09.45 น. ออกเดินทางสู่สนามบิน ริโอเดอจาเนโร โดยเที่ยวบิน JJ 3510 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
10.50 น. เดินทางถึงสนามบิน ริโอเดอจาเนโร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเอเซีย
บ่าย นำท่านนั่งรถไฟขึ้นสู่ยอดเขาคอร์โควาโด (Corcovado Mountain) อันเป็นที่ตั้งของรูปปั้นของพระเยซู ชื่อ Christ of Redeemer ที่มี ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ รูปปั้นพระเยซูที่มีความสูงประมาณ 700 เมตรนี้ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาคอร์โควาโด เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองและชายหาดที่สวยที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถ รางไปบนยอดเขาเพื่อมองรูปปั้นอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบราซิลและคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลกได้อย่างใกล้ชิด ชาวบราซิลมักจะ กล่าวอ้างว่า พระเจ้าเป็นชาวบราซิล ซึ่งอาจเป็นเพราะรูปปั้นพระเยซู ที่ยืนเพ่งมองมายังเมืองราวกับว่า ริโอ อยู่ในความคุ้มครองของ พระองค์ (การขึ้นสู่ยอดเขาขึ้นกับสภาพอากาศ) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Lobster Menu)
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Windsor Excelsior Copacabana **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
9 มีนาคม 2019 เคเบิ้ลคาร์ขึ้นยอดเชาชูการ์โลฟ – เที่ยวชมเมือง – ชมขบวนแห่คาร์นิวัล (รอบแชมเปี้ยน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาชูการ์โลฟ (Sugar Loaf Mountain) ยอดเขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหาดโคปาคาบานา ในเมืองริโอ เดอ จาเนโร มีความสูง 1,400 เมตร ซึ่งสูงตระหง่านอยู่ที่ปลายแหลมสุดของปากอ่าว กวานาบารา และตั้งโดดเด่นคู่กับภูเขาคอร์โควาโด ท่านสามารถชมทิวทัศน์และภาพอันงดงามของเมืองริโอ เดอจาเนโร จากมุมสูงของยอดเขาชูการ์โลฟ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมือง ริโอ เดอจาเนโร ซึ่งเป็นประตูสู่บราซิล ได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านผ่านชม สนามกีฬามารากาน่า (Maracana stadium) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือนวิหารของฟุตบอลบราซิล เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 3 ของเมือง และเป็นสถานที่ที่ชาวเมืองภาคภูมิใจมาก มีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของฟุตบอลบราซิลเกิดขึ้นที่นี่มากมาย เช่น การยิงประตูที่ 1,000 ของเปเล่ ตำนานลูกหนังแซมบ้า และยังเป็นสนามที่เขาลงเล่นให้ทีมชาติเป็นนัดแรกด้วย สนามนี้ถูกใช้เป็นที่จัดพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ รวมถึงจะใช้จัดพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิก 2016 นำท่านผ่านชมฟลาเมนโกพาร์ค (Flamengo Park) สะพาน Neteroi ก่อนลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเล ผ่านชายหาดที่มีชื่อเสียงก้องโลก จนถึงหาดโคปาคาบานา (Copacabana Beach) ที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Seafood Menu)
หลังอาหารมื้อค่ำ นำท่านสู่แซมโบโดรม (Sambodrome) ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันขบวนคาร์นิวัล อันยิ่งใหญ่งดงามตระการตา ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศเทศกาลคาร์นิวัลแบบใกล้ชิด และจะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ท่านจะไม่มีวันลืมเลือน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Windsor Excelsior Copacabana **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
10 มีนาคม 2019 น้ำตกอิกวาสุ (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก)
เช้า รับประทานอาหารเช้าแบบ (Breakfast Box)
05.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน ริโอเดอจาเนโร
08.10 น. ออกเดินทางสู่สนามบิน อิกวาสุ โดยเที่ยวบิน…..(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง)
10.25 น. เดินทางถึงสนามบิน อิกวาสุ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านชมเขื่อนอิไตปู (Taipu Dam) เขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตนั้นจัดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่เขื่อนในประเทศ จีนจะมีการก่อสร้างเสร็จ เขื่อนอิไตปูสร้างในปีค.ศ.1984 แล้วเสร็จในปีค.ศ.1988 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 4 ปี คำว่า “อิไตปู” มา จากภาษากวารานิของชาวอินเดียนแดงชนเผ่าดั้งเดิม แปลว่า “เสียงเพลงจากก้อนหิน” เขื่อนอิไตปู กั้นแม่น้ำปารานาบริเวณเขตแดน ระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปารากวัย ซึ่งนอกจากเป็นผนังกั้นน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสอง ประเทศอีกด้วย ตัวเขื่อนมีขนาดความสูง 180 เมตร ความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการก่อสร้างกว่า 28 ล้านตัน และใช้ เหล็กมากขนาดที่ว่าใช้สร้างหอไอเฟลได้ถึง 380 หอเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย เนื่องจากความอลังการของเขื่อนแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Wydham Hotel Iguazu **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
11 มีนาคม 2019 น้ำตกอิกวาสุ (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก) ฝั่งอาร์เจนติน่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านข้ามพรมแดนเพื่อชมความสวยงามของน้ำตกอิกวาสุ (ฝั่งอาร์เจนตินา) ซึ่งต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านชมความงดงามและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกวาสุ (Iguaza Fall) ซึ่งเป็นคำมาจากภาษากวารานี (Guarani) ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม แปลว่า “สายน้ำอันยิ่งใหญ่” ค้นพบโดยนักสำรวจชาวสเปน เมื่อปี ค.ศ. 1542 น้ำตกอิกวาสุตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างบราซิลกับอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกโดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่าประมาณ 30 เท่า อย่างไรก็ตามขนาดของน้ำตกใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกา น้ำตกอิกวาสุเกิดจากแม่น้ำอิกวาสุซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบต่ำกว่า จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกใหญ่น้อยอีกกว่า 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมปริมาณน้ำมีมากถึงกว่า 13.6 ล้านลิตรต่อวินาที แต่ในช่วงฤดูร้อน คือระหว่างเมษายนถึงตุลาคม ปริมาณน้ำจะลดลงเหลือ 2.3 ล้านลิตรต่อวินาที บริเวณรอบๆ น้ำตกจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร บนฝั่งบราซิลจะมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงาม แต่ทางฝั่งอาร์เจนตินาสามารถเข้าชมน้ำตกได้ใกล้กว่า
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านสู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกอิกวาสุ (ฝั่งอาร์เจนตินา) เพื่อให้ท่านได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่และความงดงามของน้ำตกอิกวาสุ (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ทางธรรมชาติ) อย่างใกล้ชิด อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความยิ่งใหญ่อลังการตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านกลับสู่โรงแรมฝั่งบราซิล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ พร้อมชมโชว์พื้นเมือง
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Wydham Hotel Iguazu **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
12 มีนาคม 2019 น้ำตกอิกวาสุ (ฝั่งบราซิล) – ล่องเรือเจทมาคูโค– ลิมา (พักค้าง 2 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสัมผัสบรรยากาศ น้ำตกอิกวาสุ (ฝั่งบราซิล) ซึ่งเป็นฝั่งที่ท่านสามารถมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงามที่สุด ท่านจะได้สัมผัสกับความงามแสนมหัศจรรย์ของธรรมชาติ น้ำตกทรงเกือกม้าที่เกิดจากแม่น้ำริโออิกวาสุทั้งสายไหลมาจากหน้าผาเบื้องบนตกลงสู่หุบเหวย่อยๆ กว่า 30 แห่ง พลังน้ำตกที่ตกลงมากระทบก้อนหินเบื้องล่างก่อให้เกิดละอองน้ำกระเซ็นกระจายไปทั่วปรากฏเป็นรุ้งกินน้ำสีสวยสดใส ซึ่งท่านสามารถเดินเข้าไปสัมผัสกับพลังของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเอเชีย
บ่าย นำท่านล่องเรือเจทมาคูโค (Macuco Safari Boat) ชมความสวยงามของแม่น้ำอิกวาสุ และน้ำตกแห่งนี้แบบใกล้ชิด (กรุณาเตรียมเสื้อผ้า 1 ชุด สำหรับเปลี่ยนหลังล่องเรือแล้ว) สนุกสนานกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับการล่องเรือเจทโบ้ท บริเวณน้ำตกอิกวาสุ
17.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน อิกวาสุ เพื่อเดินทางสู่สนามบิน กรุงลิมา ประเทศเปรู
19.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงลิมา ประเทศเปรูโดยเที่ยวบิน LA2442 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
สายการบินมีบริการอาหารบนเครื่องบิน
22.10 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงลิมา
นำท่านนั่งรถโค้ชปรับอากาศสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Jose Antonio Deluxe Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
13 มีนาคม 2019 ลิมา – พิพิธภัณฑ์ทองคำ – เมืองโบราณปาชาคามา – โบสถ์ซานฟรานซิสโก
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโบราณปาชาคามา (Pachacamac Ruins) ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้สร้างโลก” เป็นเมืองโบราณที่สร้างขึ้นและสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างปี 800-1450 ก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลิมา ในอดีตปกครองโดยอาณาจักรอินคา บริเวณโดยรอบเป็นที่ตั้งของปิระมิดหลากหลายรูปแบบที่ได้มีการขุดค้นพบขึ้น และส่วนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดคือ วิหารปาชาคามา นำท่านเข้าชมภายในวิหารและโบราณสถานโดยรอบที่ได้ขุดค้นพบในเมืองนี้ และชมความยิ่งใหญ่ของเมืองโบราณแห่งอาณาจักรอินคาอีกแห่งหนึ่ง ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ Huaca Hualiamarca ซึ่งเป็นปิระมิดดินขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านให้นักท่องเที่ยวเก็บภาพและความน่าประทับใจ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านชม กรุงลิมา (Lima) เมืองหลวงที่ยังคงรักษาความเป็นละตินอเมริกาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเมืองหนึ่ง เมืองลิมาตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1535 โดยชาวสเปนชื่อฟรานซิสโก ปิซาโร และ ในปี ค.ศ.1991 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้ลิมาเป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรม นำท่านผ่านชม จตุรัส อาร์มาส (Plaza De Armas) แวะถ่ายรูปกับทำเนียบรัฐบาล (Lima Parliament) ซึ่งเด่นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ The Basilica Cathedral of Lima เป็นโบสถ์คาทอลิคที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1535 นำท่านผ่านชมย่านที่พักอาศัยชานเมืองแถวมิราโฟลเรสและซานอิสโตรซึ่งมีชื่อเสียงด้านความงามของบ้านและสวน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทองคำ (Gold Museum) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมศิลปะวัตถุซึ่งทำด้วยทองคำของชาวเปรูมาตั้งแต่อดีตกาล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Jose Antonio Deluxe Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
14 มีนาคม 2019 ลิมา – คูซโก้ (พักค้าง 2 คืน) – วิหารพระอาทิตย์ – กำแพงเมืองซัคไซฮัวมัน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินลิมา เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่เมืองคูซโก้
11.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองคูซโก้ (Cuzco) โดยเที่ยวบิน AV837 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ช.ม.)
12.20 น. เดินทางถึงสนามบินคูซโก้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเอเซีย
บ่าย นำท่านชมเมืองคูซโก้ เมืองหลวงของอาณาจักรอินคา ที่แพร่ขยายอำนาจจนกินพื้นที่ 2 ใน 3 ของอเมริกาใต้ ตั้งอยู่เหนือระดับ น้ำทะเล ถึง 3,400 เมตร และเป็นแหล่งอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ลึกลับน่าทึ่ง เป็นชุมชนเก่าแก่ของจักรวรรดิอินคาอันรุ่งเรือง ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยความเจริญไว้ให้เห็นเป็นซากปรักหักพักโบราณและโบราณวัตถุต่างๆ นำท่านเข้าชมวิหารโคริคันชา หรือที่รู้จัก ในนาม วิหารพระอาทิตย์ (Qoriqancha, The Sun Temple) ที่สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าดวงอาทิตย์ จากนั้นสัมผัสกับความมหัศจรรย์ ในการก่อสร้างที่แข็งแรงของกำแพงเมืองของชาวอินคา กำแพงซัคเซฮัวมัน (Sacsayhuaman) ที่สร้างขึ้นพื่อป้องกันการรุกรานของ ศัตรู และป้องกันแผ่นดินไหว สิ่งเหล่านี้ได้แสดงถึงความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของชาวอินคาอย่างน่าประหลาดใจ ได้เวลานำท่าน เดินทางสู่หุบเขาซาเครท (Sacred Valley) อันเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ที่จะเปิดให้ท่านเดินทางไปชมสิ่งมหัศจรรย์ ของโลก อย่างมาชู ปิคชู
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Casa Adina Sacred Valley Hotel**** หรือเทียบเท่า
15 มีนาคม 2019 นั่งรถไฟไต่เขาขึ้นสู่ มาชู ปิคชู (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของโลก) – ชมเมืองคูซโก้
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางออกสู่นครโบราณของอาณาจักรอินคา มาชูปิคชู (Machu Picchu) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของโลกโดยรถไฟไต่ขึ้นเทือกเขาแอนดิสอันยิ่งใหญ่ ระหว่างทางท่านจะได้ชมความสวยงามและความลึกลับของบรรยากาศโดยรอบที่เข้ากับสถานที่ ข้างทางเป็นแม่น้ำ อูรูบัมบา (Urubamba) ไหลแรงคดเคี้ยวขนานไปกับทางรถไฟสู่ปลายทางที่สถานีเมืองอควาส์ กาเลียนเต้ส์ (Aquas Calientes) จากนั้นเดินทางโดยรถบัสสู่มาชูปิคชู (Machu Picchu) นครที่หายสาบสูญไปของอาณาจักรอินคา บนยอดเขาสูงที่ถูกหมอกปกคลุมอยู่เสมอ จนถึงปี 1911 นครแห่งนี้จึงปรากฏสู่สายตาชาวโลกในลักษณะสภาพบ้านเมือง บ้านเรือน พระราชวัง วิหาร ซึ่งยังคงสภาพเดิมที่ดีราวกับได้รับการอนุรักษ์ดูแลไว้อย่างน่าอัศจรรย์ นครโบราณแห่งนี้ถูกค้นพบโดยฮิรัม บิงแฮม ซึ่งตั้งใจจะหาเมืองโบราณสองเมืองที่ปรากฎชื่ออยู่ในเอกสารโบราณ แต่กลับมาพบเมืองที่ไม่ปรากฎอยู่ในเอกสารใดทั้งสิ้น จึงได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อภูเขาอันเป็นที่ตั้ง คือ Machu Picchu ซึ่งมีความหมายว่า Old Mountain และข้างๆ ยังมียอดเขา Huayna Picchu หรือ New Mountain ตัวโบราณสถานมาชู ปิคชูนั้น ซ่อนอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า และ ณ ที่แห่งนี้คือเมืองที่ไม่กี่ร้อยปีมานี้ยังมีผู้คนอาศัย ก่อนจะถูกทิ้งร้างไปเมื่อสเปนเข้ามาในศตวรรษที่ 15 อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ ที่ยากต่อการมาถึงของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
***** อิสระให้ท่านชม เก็บภาพ ความสวยงามของเมืองโบราณแห่งอาณาจักรอินคา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของ โลกที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ควรพลาดที่จะได้มาเยือน*****
บ่าย ออกเดินทางโดยรถไฟกลับสู่เมืองคูซโก้
ท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อีกฟาก ของรถไฟ ตลอดเส้นทางการไต่ลงจากเทือกเขาแอนดิส พร้อมความภูมิใจและความประทับใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน เมืองโบราณอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอินคา เมืองโบราณที่หายสาบสูญมานาน และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมชมโชว์พื้นเมืองของชาวอินคา
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Sonesta Hotel Cusco **** หรือเทียบเท่า
16 มีนาคม 2019 คูซโก้ – ซานเตียโก (ชิลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมย่านเมืองเก่าของเมืองคูซโก้ เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1983 นำท่านชมกำแพงหิน หรือที่รู้จักในนาม 12 Side Stone ที่สร้างขึ้นโอบล้อมเมืองเก่าคูซโก้ กำแพงนี้สร้างจากภูมิปัญญาของชาวอินคาโบราณ โดยการนำหินก้อนใหญ่มาเรียงกันสร้างเป็นกำแพงเมืองขนาดใหญ่ นับได้ ว่าเป็นอีกสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองเก่าคูซโก้ นำท่านเดินชมความสวยงามของเมืองคูซโก้ จากนั้นนำท่านสู่จตุรัสอาร์ม (Arms Square) หรือที่รู้จักในนาม จตุรัสนักรบ (Square of the warrior) จตุรัสแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ โบสถ์ลาคัมปาเนีย (Church of la Compania de Jesus) โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1576 และได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียล บาโร๊คที่สวยงามคู่เมืองคูซโก้มานาน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจของเมืองคูซโก้ อดีตเมืองราชธานีที่รุ่งเรืองที่สุดของอเมริกาใต้
10.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินคูซโก้
ทางทัวร์จัดค่าอาหารให้ลูกค้าทุกท่าน ท่านละ USD 25 อิสระให้ท่านเลือกรับประทานอาหารภายในสนามบิน
12.00 น. ออกเดินทางจากสนามบินคูซโก้ สู่สนามบินลิมา โดยเที่ยวบิน AV842 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ช.ม.)
13.25 น. เดินทางถึงสนามบินลิมา ประเทศเปรู เพื่อเปลี่ยนเครื่องบินสู่สนามบินซานเตียโก ประเทศชิลี
17.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินลิมา สู่สนามบิน ซานเตียโก โดยเที่ยวบิน LA 643 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.30 ช.ม.)
23.30 น. เดินทางถึงสนามบินซานเตียโก (SCL) ประเทศชิลี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Plaza San Francisco Hotel **** หรือเทียบเท่า
กรุณาจัดกระเป๋าใบเล็กเพื่อพักค้างบนเกาะอีสเตอร์ 1 คืน
17 มีนาคม 2019 เกาะอีสเตอร์, รูปปั้นปริศนาโมอาย
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินซานเตียโก เพื่อเชคอิน
09.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซานเตียโก โดยเที่ยวบิน LA 841 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.35 ช.ม.)
12.55 น. เดินทางถึงสนามบิน อีสลา เดอ ปาชัวร์ บนเกาะอีสเตอร์
นำท่านเดินทางสู่ตอนใต้ของเกาะอีสเตอร์ เพื่อไปชมความมหัศจรรย์ของทุ่งโมอาย ณ เหมืองหิน ราโน ราราคู (Rano Raraku) ซึ่งเป็นที่ที่พบโมอายอยู่กว่า 400 ตัว อยู่ในกระบวนการแกะสลักซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์ จากการค้นพบรูปปั้นที่ยังแกะสลักอยู่ครึ่งๆกลางๆนั้น ทำให้มีการสันนิษฐานว่าเหมืองหินได้ถูกทิ้งร้างไปอย่างกะทันหัน นอกจากนั้นในการค้นพบโมอายเกือบทั้งหมดอยู่ในสภาพล้มนอน เชื่อว่าชาวพื้นเมืองบนเกาะเป็นผู้ทำให้มันล้ม ลักษณะที่เด่นชัดของโมอาย คือส่วนหัว แต่ก็มีโมอายหลายตัวซึ่งมีส่วนหัวไหล่ แขน และลำตัว ซึ่งเป็นโมอายที่พบหลังจากถูกฝังมานานนับปี ความหมายและวัตถุประสงค์ของการสร้างโมอายนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดและมีการสันนิษฐานกันไปต่างๆนานา ข้อสันนิษฐานที่แพร่หลายมากคือโมอายถูกแกะสลักโดยชาวโพลิเนเชียน (Polynesian) ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อกว่า 1,000 ปีมาแล้ว ข้อสันนิษฐานเชื่อว่าพวกโพลิเนเชียนอาจสร้างโมอายขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ หรืออาจจะเป็นผู้ซึ่งมีความสำคัญ ณ สมัยนั้นหรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะของครอบครัว อิสระให้ท่านเก็บภาพความน่าอัศจรรย์ของทุ่งโมอายนับร้อยตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Taha Tai Hotel *** หรือเทียบเท่า
18 มีนาคม 2019 เกาะอีสเตอร์ – ราโน ราราคู
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมเกาะอีสเตอร์ เป็นเกาะขนาดเล็กที่ถือว่าตั้งอยู่โดดเดี่ยวแห่งหนึ่งของโลก โดยเกาะนั้นมีพื้นที่เพียง 160 ตารางกิโลเมตร มีความยาว 25 กิโลเมตร แต่ถึงแม้ว่าเกาะจะมีขนาดเล็ก แต่ประวัติศาสตร์ของเกาะอีสเตอร์นั้นยิ่งใหญ่เกินขนาดของเกาะเป็นหลายเท่าตัวเลยโดยสิ่งก่อสร้างที่ถือว่าเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ คือ รูปสลักหินขนาดยักษ์ หรือที่รู้จักในนาม “โมอาย” (Moai) แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ที่มาของชาวพื้นเมืองบนเกาะ แต่ชาวพื้นเมืองก็ได้สร้างรูปสลักยักษ์ขึ้น ซึ่งสร้างจากหินและกากแร่ภูเขาไฟหรือหินบะซอลต์ซึ่งรูปสลักในยุกแรกจะเป็นรูปสลักคนนั่งคุกเข่าในช่วงประมาณ ค.ศ. 380 ในยุคถัดมาเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1100 จะสลักเป็นรูปที่เรียกว่า โมอาย (Moai) ซึ่งเป็นที่โดดเด่นทั่วไปบนเกาะ โมอาย เป็นรูปปั้นหินซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และส่วนศีรษะมีขนาดใหญ่เด่นชัด โมอายถูกพบมากกว่า 600 ตัว กระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์ในอุทยานแห่งชาติลาปานุย ประเทศชิลี โมอายเกือบทั้งหมดที่พบนั้นถูกแกะสลักมาจากหินก้อนเดียว แต่ก็มีบางตัวซึ่งมี Pukau ลักษณะคล้ายหมวกเป็นชิ้นต่างหากอยู่บนศีรษะ โมอายเกือบทั้งหมดถูกแกะสลักมาจากเหมืองหินที่ราโน ราราคู (Rano Raraku) ซึ่งเป็นที่ที่พบโมอายอยู่กว่า 400 ตัว อยู่ในกระบวนการแกะสลักซึ่งใกล้เสร็จสมบูรณ์ นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติลาปานุย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1995 เพื่อถ่ายรูปกับโมอาย สัญลักษณ์แห่งเกาะอีสเตอร์ นำท่านถ่ายรูปกับ โมอาย 7 ตัว หรือที่รู้จักกันในนาม อาฮู อากิวี (Ahu Akivi) สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ โฮตู มาตูอา (King Hotu Matua) จากนั้นนำท่านสู่บริเวณที่เชื่อว่าเป็นที่ทำหมวกของโมอาย หรือที่รู้จักในนาม ปูนาเปา (Puna Pau Quarry) ซึ่งเป็นอีกชิ้นส่วนที่สำคัญของโมอายที่สร้างเหมือนมีหมวกบนหัว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน อีสลา เดอ ปาชัวร์ บนเกาะอีสเตอร์
14.55 น. ออกเดินทางสู่เมืองซานเตียโก ประเทศชิลี โดยเที่ยวบิน LA842
21.25 น. เดินทางถึงสนามบินซานเตียโก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Plaza San Francisco Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
19 มีนาคม 2019 ซานเตียโก
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เนินเขาซานตาลูเซีย (Santa Lucia Hill) ซึ่งเป็นเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ และ ทัศนียภาพของเมืองซานเตียโกในมุมสูง นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ปราสาทฮิลดาโก (Hildalgo Castle) เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นป้อมปราการในอดีตสำหรับเป็นจุดเฝ้าระวังการรุกรานของข้าศึก เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาสูง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองซานเตียโก ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ย่านจตุรัสพลาซ่า เดอะ อาร์ม (Plaza De Arm) อันเป็นจตุรัสที่ตั้งของสถาปัตยกรรมโบราณต่างๆมากมาย นำท่านเข้าชมมหาวิหารแห่งซานเตียโก (Cathedral of Santiago) เป็นมหาวิหารที่สร้างด้วยศิลปะนีโอคลาสสิคสร้างตั้งแต่ปี 1748 แล้วเสร็จในปี 1800 นำท่านเข้าชมความงดงามภายในมหาวิหารแห่งนี้ นำท่านถ่ายรูปด้านหน้าของพระราชวังโมนิดา (La Moneda Palace) ซึ่งปัจจุบันคือ ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศชิลี และใช้เป็นสถานที่ราชการของกระทรวงต่างๆของประเทศชิลี นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมและถ่ายรูปบริเวณลานด้านหน้า พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดย โจแอนควิน โทเอากา สถาปนิกชาวอิตาเลียน สร้างขึ้นในปี 1784-1805 ในแบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิค และมีเสาโรมันขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นซุ้มประตู ความสวยงามและเก่าแก่ของพระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (พิเศษ เมนู ปูอลาสก้า)
บ่าย นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งชิลี (Chilean National Museum of Natural History) สถานที่อันเก็บรวบรวมการเกิดประเทศชิลี ตลอดจนชนพื้นเมืองในอดีต และ สิ่งของล้ำค่า วัตถุโบราณต่างๆ ได้เวลานำท่านเที่ยวชมย่านโบฮีเมียนของชิลี หรือ รู้จักในนาม “บาริโอ เบลล่า วิสต้า” (Barrio Bellavista) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำมาโปโค (Mapocho River) และ เนินเขา ซาน คริสโตบอล (San Cristobal Hill) ย่านนี้เป็นที่เรียกว่า “ฮิป” ที่สุดในชิลี เนื่องจากเป็นย่านที่เต็มไปด้วย ร้านค้า, แกลลอรี่, ร้านกาแฟสไตล์เก๋ๆ, รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่คงสถาปัตยกรรมหลากสีสันสวยสะดุดตา นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่วางขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองมากมาย จนกระทั่ง งานศิลปะ ของศิลปินหน้าใหม่ ที่ต้องการโชว์งานฝีมือ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเพลินเพลินกับทั้งบรรยากาศของเมืองริมแม่น้ำและผลงานศิลป์ที่จัดแสดงในแกลลอรี่ หรือร้านค้าต่างๆ และแน่นอนสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเก็บภาพอาคารหลากสีสันที่แต่งแต้มด้วยผลงานสีสันแปลกตาและสวยงามมาก ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ อะรูโค พาร์ค (Aruco Park) ซึ่งเป็นช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศชิลี ที่มิได้มีเพียงอาคารช้อปปิ้งมอลล์เท่านั้น แต่ยังรายล้อมไปด้วย ร้านค้าอิสระ และเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ครบครัน ทั้งโรงภาพยนตร์, โบว์ลิ่ง, ลานไอซ์สเกต ซึ่งจัดตกแต่งได้อย่างแปลกตาบนเนื้อที่โครงการกว่า 2,000 เอเคอร์อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าทั้งสินค้าแบรนด์เนม และ สินค้าพื้นเมืองต่างๆมากมาย ที่มีวางขายในร้านค้าต่างๆ อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Plaza San Francisco Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
20 มีนาคม 2019 ซานเตียโก – บัวโนสไอเรส (ค้าง 2 คืน)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ของเมืองซานเตียโก (Santiago) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของชิลี ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 520 เมตร (1,700 ฟุต) ในหุบเขาตอนกลางของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นซานเตียโกเมโทรโพลิแทน กว่าสามศตวรรษที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องได้เปลี่ยนให้ซานเตียโกเป็นเขตนครหลวงที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในละตินอเมริกา พร้อมๆกับการพัฒนาเขตชานเมืองอย่างกว้างขวาง ศูนย์การค้าหลายสิบแห่ง และสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ รวมทั้งมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของละตินอเมริกา เช่น ซานเตียโกเมโทร (Santiago Metro) และระบบใหม่ "โกสตาเนรานอร์เต” (Costanera Norte) เป็นระบบขนส่งของย่านกลางกรุง เชื่อมระหว่างด้านตะวันออกสุดไปด้านตะวันตกสุดของเขตเมืองภายในเวลา 15 นาที นำท่านสู่เนินเขา ซาน คริสโตบอล (San Cristobal Hill) ซึ่งเป็นจุดชมวิวกรุงซานเตียโกได้ดีที่สุด นำท่านชมทิวทัศน์อันงดงาม บนยอดเนินที่สูง 860 เมตร หากอากาศดีท่านยังสามารถมองเห็นเทือกเขาแอนดีสด้อีกด้วย Cerro San Cristóbal คือไฮไลท์ของ Parque Metropolitano ซึ่งเป็นอุทยานกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดของซานเตียโก จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง (Santiago city hall)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
14.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน ซานเตียโก เพื่อเชคอิน
16.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินซานเตียโก สู่สนามบินสนามบิน มินิสโตร ปิสตารินี (EZE) ประเทศอาร์เจนตินา โดยเที่ยวบิน LA443 (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ช.ม.)
18.55 น. เดินทางถึงสนามบิน มินิสโตร ปิสตารินี (EZE) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก American Park Buenos Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
21 มีนาคม 2019 บัวโนสไอเรส
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชมกรุงบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) เมืองหลวงของอาร์เจนตินา เมืองใหญ่อันดับสองของอเมริกาใต้ รองจาก นครเซาเปาโลของบราซิล ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางใต้ของแม่น้ำริโอเดอลาพลาตา (Rio de la Plata) ถือว่าเป็นอีกเมืองที่ได้รับวัฒนธรรมยุโรปเป็นอย่างมาก จนได้รับการขนานนามว่า "ปารีสแห่งอเมริกาใต้" เมืองนี้มีความเจริญและมีความทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบลาตินอเมริกา นำท่านแวะถ่ายรูปกับทำเนียบประธานาธิบดีหรือที่มีชื่อเรียกว่า “คาซา โรซาดา” (Casa Rosada) แปลว่าบ้านสีชมพูหรือบ้านสีกุหลาบเพราะใช้หินสีชมพูก่อสร้าง ตั้งตระหง่านอยู่หน้า จัตุรัสมาโย (Plaza De Mayo) อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามของเมืองและสถาปัตยกรรม อาคารสำนักงานต่างๆที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะยุโรป นำท่านเข้าชมมหาวิหารโรเซอร์เรตต้า (The Metropolitan Cathedral) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1677 และได้พังทลายลงในปี 1753 ต่อมาได้มีการบูรณะสร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาใหม่โบสถ์แห่งนี้เป็นที่ฝังศพของ นายพลโฮเซ่ เดอ ซานมาร์ติน นักปฎิวัติผู้ยิ่งใหญ่และผู้นำอิสรภาพสู่อาร์เจนตินา จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จตุรัสคองเกรส ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ (Parliament House) นำท่าน ผ่านชมถนน 9 กรกฎาคม (Avenida 9 de Julio) ซึ่งชาวอาร์เจนตินาอ้างว่าถนนสายนี้เป็นถนนที่กว้างที่สุดในโลก ผ่านชมที่ตั้งของเสาโอบิลิกส์ (Obelisk El Obelisco) สร้างขึ้น ในปี 1936 ณ ส่วนกลางของถนนแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก เป็นที่จัดประชุมทางการเมือง งานดนตรี และเป็นสถานที่ฉลองชัยชนะของทีมฟุตบอลอาร์เจนตินา นำท่านเข้าชมที่ฝังศพของเอวิต้า เปรอง (Tomb of Evita Peron) หรือ เอวา เปรอง อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศอาร์เจนตินา ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้นายพลฮวน เปรอง ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งอาร์เจนตินา ด้วยคำแนะนำต่างๆของเธอ เอวิต้า เปรอง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2495 ด้วยโรคมะเร็งมดลูก ด้วยวัยเพียง 33 ปีเท่านั้น ซึ่งสร้างความเศร้าเสียใจกับประชาชนชาวอาร์เจนตินาเป็นอย่างมาก ประวัติชีวิตของเอวามีคนนำไปทำหนังสือ ละครเวที และสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งที่ฮอลิวู้ดได้เคยนำมาทำเป็นภาพยนตร์นำแสดงโดย มาร์ดอนน่า และเพลงที่รู้จักกันทั่วโลก อย่าง Don’t Cry for me Argentina
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านสู่ย่านลาโบกา (La Boca) ย่านที่อยู่อาศัยของชนชั้นแรงงาน มีสีสันสดใสหลากหลายจนลายตา ได้รับการก่อตั้งขึ้นใน กลางศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของกรรมกรท่าเรือ โดยได้ตั้งติดอยู่ริมน้ำพอดี ย่านนี้ได้ชื่อว่ามีบ้านเรือนที่สร้างด้วยสังกะสีแต่มี การนำสีสด ๆ แปลก ๆ มาทา จิตรกรเบนีโต กินเกลา มาร์ติน เป็นผู้นำในการใช้สีของผู้คนในย่านนี้ในช่วงต้นๆ ศตวรรษ นำท่าน ชม ย่านคาร์เมนนิโต้ (Carmanito) หมู่บ้านแทงโก้ที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ความเป็นชุมชนเก่าแก่ไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก American Park Buenos Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
22 มีนาคม 2019 เอล คาลาฟาเต้ –ชมธารน้ำแข็ง เปริโต มอเรโน ณ อุทยานแห่งชาติ ลอส กลาเซียร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
07.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน เดินทางสู่เมือง เอล คาลาฟาเต้ (El Calafate)
10.15 น. ออกเดินทางสู่เมือง เอล คาลาฟาเต้ โดยเที่ยวบิน LA7736 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.20 ชั่วโมง)
13.40 น. เดินทางถึงสนามบิน เอล คาลาฟาเต้ เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทางใต้ของทะเลสาบอาร์เจนติโน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซานตา ครูซ ประเทศ อาร์เจนติน่า
(อาหารกลางวันเตรียมให้ท่านแบบปิกนิก เพื่อให้สามารถเข้าชมอุทยานได้ทันเวลา)
นำท่านเดินทางสู่ ธารน้ำแข็ง เปริโต มอเรโน (Perito Moreno Glacier) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติลอสกลาซิอาเรส (Parque Nacional Los Glaciares) เป็นหนึ่งในหลายๆธารน้ำแข็งที่สวยงามของประเทศอาร์เจนติน่า นอกจากนั้น ภูเขาธารน้ำแข็ง เปริโต มอเรโน ยังได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1981 อีกด้วย นำท่านชมธารน้ำแข็ง เปริโต มอเรโน เป็นธารน้ำแข็งที่เลื่องชื่อมาก ก่อตัวเป็นแนวกำแพงสูงขนาดความกว้าง 5 กิโลเมตร และสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 74 เมตร (240 ฟุต) จากระดับผิวน้ำ เป็นธารน้ำแข็งที่มีการเติบโต และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหลายพันปีก่อน พื้นที่อุทยานฯ แห่งนี้ ถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งทั้งหมด แต่ด้วยอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น จึงทำให้ก้อนน้ำแข็งละลาย และเหลืออยู่ให้เห็นในปัจจุบัน มีการแตกลั่นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวตลอดทั้งวัน เนื่องจากก้อนน้ำแข็งมหึมาที่ตกลงในทะเลสาบก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ซัดชายฝั่งอย่างรุนแรง อีกทั้งธารน้ำแข็งจะขยายตัวในทุกๆรอบสี่ปี เนื่องจากธารน้ำแข็งไปปิดทางออกของน้ำ ระดับน้ำในทะเลสาบจึงมักเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่ทำให้กำแพงน้ำแข็งทลาย กลายเป็นฉากอันน่าตื่นตาตื่นใจ และกินเวลาหลายชั่วโมงจึงจะยุติ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนส่วนใหญ่ จึงต่างเดินทางมาเพื่อมาจดจ่อรอชม และฟังเสียงก้อนน้ำแข็งยักษ์หล่นลงสู่ ทะเลสาบ Argentino อันเป็นไฮไลท์ของโปรแกรมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mirado Del Lado Hotel**** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
23 มีนาคม 2019 ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอัปซาลา – 4WD อัปซาลา วิวพอยท์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เปอร์โต บานเดอร่า (PUERTO BANDERA) หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในจังหวัดซานตาครูซ ซึ่งอยู่ห่างจากเอล คาฟาเต้ไปประมาณ 47 กิโลเมตร เพื่อนำท่านล่องเรือชมธารน้ำแข็งอัปซาลา (UPSALA GLACIER) เป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ถือเป็น 1 ใน 10 สถานที่ในโลกที่เหมาะจะดูธารน้ำแข็ง และเป็นธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสองในอเมริกาใต้ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของทะเลสาบอาร์เจนติน่า (ARGENTINE LAKE) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอาร์เจนติน่า และตื่นตาตื่นใจกับธารน้ำแข็งที่มีความยาวกว่า 50 กิโลเมตร กว้างประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งด้วยการนั่งรถโฟร์วีล 4x4 วิ่งขึ้นเขาไปตามเส้นทางจนกระทั่งถึงจุดชมวิวซึ่งเรียกว่าเป็น UPSALA VIEWPOINT (หมายเหตุ...การล่องเรือชมธารน้ำแข็ง และการนั่งรถ 4WD ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางทัวร์จะจัดหากิจกรรมทดแทน) เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศา ซึ่งถือเป็นกิจกรรม Once in a life time ที่ท่านไม่ควรพลาด กระทั่งได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mirado Del Lado Hotel**** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2)
24 มีนาคม 2019 คาลาฟาเต้ – ซานเตียโก
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่าน ชมเมืองเอล คาลาฟาเต้ ซึ่งปัจจุบันมีประชากร ประมาณ 3,000 คน ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามทางตอนใต้ของ Lago Argentino สภาพทั่วไป ถูกโอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี และเทือกเขาสูงใหญ่ สองฟากฝั่งของถนนสายหลักในหมู่บ้าน เรียงรายไปด้วยโรงแรม ร้านขายของที่ระลึกที่ท่านสามารถเดินเที่ยวเล่นได้อย่างสบาย ชมย่านใจกลางเมืองเก่าที่มีอาคาร และสถาปัตยกรรมแบบเฉพาะตัวในช่วงยุคบุกเบิก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
13.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินคาลาฟาเต้ เพื่อเชคอิน
15.00 น. ออกเดินทางจากสนามบินคาลาฟาเต้ สู่ สนามบินบัวโนสไอเรสโดยเที่ยวบิน AR…. (ใช้เวลาเดินทาง 3.30 ชม.) แวะเปลี่ยนเที่ยวบินที่สนามบินบัวโนสไอเรส
19.40 น. เดินทางถึงสนามบินบัวโนสไอเรส นำท่านรับกระเป๋าเพื่อเชคอิน International Terminal
อิสระอาหารค่ำในสนามบินตามอัธยาศัย
20.30 น. นำท่านเดินทางสู่เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เพื่อเชคอิน
23.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินมินิสโตร ปิสตารินี (EZE) สู่สนามบินอิสตันบูล (IST) โดยเที่ยวบิน TK16
(ใช้เวลาบินประมาณ 16 ชั่วโมง 40 นาที)
25 มีนาคม 2019 บัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา) – อิสตันบูล
********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล *******
สายการบินมีบริการอาหารเช้า และ อาหารกลางวัน และ อาหารค่ำ บนเครื่องบิน
22.15 น. เดินทางถึงนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินตามอัธยาศัย
26 มีนาคม 2019 อิสตันบูล – กรุงเทพมหานคร
01.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาบินประมาณ 8 ชั่วโมง)
14.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ....
22 วัน ฉลองเทศกาลคาร์นิวัล
(บราซิล – เปรู –ชิลี – เกาะอีสเตอร์– อาร์เจนตินา)
5 – 26 มีนาคม 2019
อัตราค่าบริการ (บาท)
|
5-26 มี.ค. 2019
|
ราคาผู้ใหญ่ พักห้องคู่หรือ เด็ก 1 ท่านพักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน
|
399,900
|
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ
|
50,000
|
เด็กอายุ 2-12 ปี (ไม่เสริมเตียง – พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน)
|
379,900
|
ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักค่าใช้จ่าย BKK-IST-GRU//EZE-IST-BKK
|
45,000
|
ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ (BKK-IST-GRU//EZE-IST-BKK)
เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)
|
150,000
|
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่
สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2561) **
ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
§ สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
§ กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
§ กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 ก.ก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก.
โปรแกรมท่องเที่ยวบราซิล – เปรู – ชิลี – อาร์เจนตินา (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
§ ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TK (กระเป๋าเดินทาง น้ำหนัก ไม่เกิน 23 กก./ใบ)
§ ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
§ ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
§ ค่าภาษีในประเทศทุกประเทศในรายการ
§ ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
§ ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
§ น้ำดื่มบริการบนรถ 1 ขวดต่อท่านต่อวัน
§ เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง ค่าทิป พนักงานขับรถ, ไกด์ไทย, ไกด์ท้องถิ่น
อัตรานี้ไม่รวมถึง
§ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ ค่าเครื่องดื่มมินิบาร์และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่มิได้ระบุ
§ ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
§ วัคซีนไข้เหลือง
การชำระเงิน งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 100,000 บาท/ท่าน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 60 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก (ท่านต้องชำระค่าใช้จ่ายอันเกิดจากเที่ยวบินภายในประเทศอเมริกาใต้ และมีใบเสร็จแสดงให้ท่านทราบ)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 120 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า หรือไม่มีค่าใช้จ่ายในการสำรองมัดจำจากโรงแรม)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 70-119 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45-69 วัน หักค่ามัดจำ 30,000 บาท
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 26-44 วัน หักค่ามัดจำ 50,000 บาท
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 20-25 วัน หักค่ามัดจำ 100,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 4-19 วัน หักค่าใช้จ่าย 50-75% ของค่าทัวร์
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-3 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของค่าทัวร์
ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
หมายเหตุ :
§ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
§ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
§ เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งก่อนเดินทาง
§ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
§ ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
ตั๋วเครื่องบิน
§ ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
§ ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
§ เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้อง
§ ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
§ โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
§ ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
§ กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
§ วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
§ หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
§ สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
§ สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีความกว้าง
( 9.75 นิ้ว ) + ยาว ( 21.5 นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )
พิมพ์โปรแกรม : 22 วัน (บราซิล – เปรู –ชิลี – เกาะอีสเตอร์– อาร์เจนตินา)
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส TK
CODE TOUR : SA150322FF
ฟอร์มจองทัวร์ กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างนี้