ทัวร์แคชเมียร์ แพคเกจทัวร์แคชเมียร์ เที่ยวแคชเมียร์ KASHMIR
.jpg)
แคชเมียร์
ทัวร์แคชเมียร์ เที่ยวแคชเมียร์ แพคเกจทัวร์แคชเมียร์
คลิกดูรายการอัพเดท ทัวร์แคชเมียร์ KASHMIR ปี 2566 (2023)
ตัวอย่างรายการทัวร์แคชเมียร์
แคชเมียร์ ศรีนาคา พาฮาลแกม โซนามาร์ค กุลมาร์ค 7 วัน 4 คืน
แคชเมียร์ เส้นทางโรแมนติก รัฐที่ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย สัมผัสความสวยงามของดินแดนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย จนได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์บนพื้นปฐพี ณ แคว้นแคชเมียร์ และได้รับการขนานนามว่าเป็นสวิสเซอร์แลนด์แห่งแดนภารตะ เดินทางโดยสายการบิน อินดิโก แอร์ เครื่องบินรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวใหม่ แอร์บัส A 320 นีโอ
TOUR CODE : IN261801BZ
กำหนดการเดินทางทัวร์แคชเมียร์ : วันที่ 08-14 กุมภาพันธ์ และ 15-21 มีนาคม 2556
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ – เดลี
23.00 น. คณะพร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตูทางเข้าหมายเลข 5 เคาน์เตอร์ K
วันที่สองของการเดินทาง เดลี – ศรีนาคา (แคชเมียร์) – พาฮาลแกม (B/L/D)
01.10 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินอินดิโก เที่ยวบินที่ 6E 44
04.10 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี กรุงเดลี
07.55 น. ออกเดินทางสู่ศรีนาคา โดยสายการบินอินดิโก เที่ยวบินที่ 6E 554
10.30 น. ถึงสนามบินศรีนาคา เมืองศรีนาคา นำท่านเดินทางสู่ พาฮาลแกม (Pahalgam) หรือ
หุบเขาแกะ (ระยะทาง 95 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง) ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,130 เมตร เดิมเคยเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในการถ่ายทำละคร, ภาพยนตร์อินเดียฟอร์มยักษ์หลายๆ เรื่อง เพราะความสวยงามทางธรรมชาติ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ลำธาร ภูเขาน้ำแข็ง และอากาศอันบริสุทธิ์สดชื่น จนได้ชื่อว่า สวิสเซอร์แลนด์แห่งอินเดีย ระหว่างทางเชิญท่านเพลิดเพลิน ชมความงามตลอดสองข้างทาง อาทิ หมู่บ้านท้องถิ่นต่างๆ, หมู่บ้านทำครกหิน, หมู่บ้านทำไม้คริกเก๊ต (ต้นหลิว) ซึ่งเป็นกีฬายอดฮิตของชาวอินเดียการทำการเพาะปลูก และเกษตรกรรม, ปลูกพืช, เลี้ยงสัตว์ ชมแนวป่าสนยักษ์ ซึ่งเป็นป่าที่สมบูรณ์และสวยงามอีกแห่งในอินเดีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พักโรงแรม Heeven’s Hotel Pahalgam หรือระดับเดียวกัน
จากนั้นอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
วันที่สามของการเดินทาง พาฮาลแกม – ศรีนาคา (B/L/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินชมหุบเขา มีสายน้ำที่ไหลมาบรรจบกัน เป็นแม่น้ำริดเดอร์ ที่พาฮาลแกมท่านสามารถขี่ม้าแคระ (มีคนจูง) ชมความงามของธรรมชาติ ป่าสนขนาดใหญ่และหมู่บ้านที่มีวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านของชาวแคชเมียร์ เส้นทางการขี่ม้าอาจแตกต่างไปตามฤดูกาล บางช่วงอาจเป็นเส้นทางไต่เขาสูงชัน สําหรับท่านที่กลัวความสูงโปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
บ่าย หลังอาหารเดินทางสู่เมืองศรีนาคา นำท่านชมสวนชาลิมาร์ (Shalimar Bagh) หรือสวนแห่งความรัก ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ดอกไม้ สวนชาลิมาร์แห่งนี้เป็นสวนแห่งความรักสร้างโดยจักรพรรดิชาฮังคี น้ำพุภายในสวนเกิดขึ้นโดยแรงดันน้ำธรรมชาติที่มาจากภูเขา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิสีสันของดอกไม้แปลกตาและหลากหลายแข่งกันออกดอกให้ยลโฉม รวมทั้งต้นซีนาร์ (ชื่อต้นไม้ที่เรียกตามท้องถิ่น) หรือเมเปิ้ล ซึ่งใบจะมีขนาดใหญ่ ต้นไม้ในสวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากบางต้นอายุกว่า 300-400 ปี สวนนี้สร้างโดยอซาฟ คาน ซึ่งงดงามไม่สามารถหาคำบรรยายได้ จากนั้นนำท่านชมสวนนิชาท (Nishat Bagh) หรือสวนแห่งความสุข มีวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบที่งดงามและหิมะบนยอดเขาของเทือกเขา Panjal ซึ่งตั้งตระหง่านไปทางทิศตะวันตกของหุบเขา Nishat ชมบรรยากาศยามเย็นของเมืองศรีนาคา
จากนั้นนำท่านสู่ที่พักโรงแรมลอยน้ำที่ริมทะเลสาบ (Deluxe House Boat) ชื่นชมทัศนียภาพทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความหมายสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติที่เดินทางมาเยือนจากทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ศรีนาคาตั้งอยู่ใจกลางของหุบเขาแคชเมียร์อยู่ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร มีทิวทัศน์สวยงามยิ่ง สามารถเยี่ยมชมได้ทั้งปี ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็นบนเรือ (Deluxe House Boat) .. หลังอาหารเชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ของการเดินทาง ศรีนาคา – กุลมาร์ค – ศรีนาคา (B/L/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือ จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมืองกุลมาร์ค (Gulmarg)
ระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเส้นทางสู่ชาย
แดนประเทศปากีสถาน กุลมาร์ค หรือ ทุ่งแห่งดอกไม้ (Meadow of Flowers) เป็นทุ่งขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3 ตารางกิโลเมตร บนระดับความสูง 2,730 เมตร มีดอกไม้ป่านานาพันธุ์ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟขนาด 18 หลุมที่ตั้งอยู่บนที่สูงที่สุดในโลก ในสมัยก่อนกุลมาร์กเป็นเมืองตากอากาศสำคัญของกษัตริย์ ยูซุฟ ชาห์ มีความหมายถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยกุหลาบ และสมัยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ กุลมาร์คกลายเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมสำหรับฤดูร้อน และเล่นสกีกันในฤดูหนาว ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติของกุลมาร์ก ท่านจะได้สัมผัสธรรมชาติอันสวยงามแบบพาโนรามาของทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาอาฟราวัต ที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นําท่านสู่สถานีเคเบิลคาร์ เฟสที่ 1 เพื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้าหรือ “กอนโดลา” โดยถือเป็นเส้นทางเคเบิลคาร์ที่สูงและยาวที่สุดในเอเชีย ในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นสกีได้โดยแนว สกีอฟารวัต (Afarwat Hills) ถือเป็นเนินสกีที่ยาวและสูงที่สุดในเอเชีย โดยมีความยาวถึง 5 กิโลเมตร และจุดสูงสุดอยู่ที่ 3,747 เมตร ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ท่านจะพบเห็นหมู่บ้านยิปซีอยู่เบื้องล่างซึ่งจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจามมูในช่วงฤดูหนาวและจะกลับมาอยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อน เมื่อถึงบนยอดเขากุลมาร์คหากฟ้าเป็นใจไม่มีหมอกจัด ท่านจะได้ถ่ายรูปกับทิวทัศน์ภูเขาที่บางยอดยังมีหิมะปกคลุมสวยงามในทุกทิศทาง (ท่านสามารถเล่นสกีได้ในช่วงฤดูหนาว, ฤดูใบไมผลิ คือเดือนธันวาคม – เมษายน) รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอรเรส สําหรับท่านที่ต้องการพิชิตยอดเขากุลมาร์คที่สูงขึ้นไปอีก สามารถซื้อบัตรกอนโดลาสําหรับเฟส 2 ได้ในราคาประมาณ 500 รูปีต่อท่าน (กอนโดลา เฟส 2 ไม่รวมในค่าทัวร์ ค่าขึ้นกระเช้าราคาท่านละ 10 ดอลล่าร์) จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปทิวทัศน์ของภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย บนยอดอากาศหนาวในช่วงหน้าร้อน และหนาวมากในช่วงหน้าหนาวและหายใจค่อนข้างลําบาก แต่ทิวทัศน์สวยงามสุดบรรยาย ให้ท่านเลือกตัดสินใจว่าจะนั่งเฟส 2 ดีหรือไม่ เนื่องจาก ณ จุดสูงสุดของกระเช้าเฟส 2 มีความสูงประมาณ 4,000 เมตร อาจเกิดอาการแพ้ความสูงได้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ที่พักโรงแรมลอยน้ำที่ริมทะเลสาบ (Deluxe House Boat) ชื่นชมทัศนียภาพทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความหมายสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติที่เดินทางมาเยือนจากทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ศรีนาคาตั้งอยู่ใจกลางของหุบเขาแคชเมียร์อยู่ที่ระดับความสูง 1,730 เมตร มีทิวทัศน์สวยงามยิ่ง สามารถเยี่ยมชมได้ทั้งปี ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็นบนเรือ (Deluxe House Boat) .. หลังอาหารเชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ห้าของการเดินทาง ศรีนาคา – โซนามาร์ค กราเซียร์น้ำแข็ง – ศรีนาคา (B/L/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้าบนเรือ หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) – ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง) สูง 2,730 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามของ กราเซียร์น้ำแข็ง เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง สามารถถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆ ได้ตลอดเส้น ผ่านชมป่าวอลนัตที่ใหญ่ที่สุด ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทาง และภูเขาหิมะที่มีรูปร่างแปลกตาตลอดสองข้างทาง จัดเป็นเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดเส้นหนึ่งของแคชเมียร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันแบบกล่อง
บ่าย เดินชมความงดงามของธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมาลัย สวยงามจนหาคำบรรยายไม่ได้ เสมือนได้เดินอยู่บนแดนสวรรค์ หรือขี่ม้าชมพูผา สายน้ำ ลำธารและหมู่บ้าน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับ สามารถแวะถ่ายรูปเก็บความประทับใจตามอัธยาศัย ความงดงามของโปรแกรมมิได้อยู่ที่สถานที่เป็นจุดหมายปลายทาง หากเป็นเส้นทางในการเดินทางที่พาจิตใจให้โบยบินดั่งผีเสื้อน้อยที่แสวงหาน้ำหวานให้กับตัวเอง
เย็น รับประทานอาหารเย็นบนเรือ (Deluxe House Boat) .. หลังอาหารเชิญพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่หกของการเดินทาง ศรีนาคา – ล่องเรือทะเลสาบ – เดลี (B/L/-)
เช้า วันนี้ปลุกท่านแต่เช้าตรู่ เพื่อนำท่านไปล่องเรือสิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) ในทะเลสาบ ชมทัศนียภาพของเทือกเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบ สัมผัสกับบรรยากาศอันเงียบสงบยามเช้า บางครั้งท่านอาจจะได้ยินเสียงสวดทำละหมาดของชาวมุสลิมดังก้องไปทั่วทะเลสาบ (ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง) จากนั้นกลับมารับประทานอาหารเช้าบนเรือ ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินศรีนาคา
11.10 น. ออกเดินทางสู่เดลี โดยสายการบินอินดีโก เที่ยวบินที่ 6E 554
12.35 น. เดินทางถึงสนามบินเดลี ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านสู่เมืองเดลี
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารมีเวลาเล็กน้อยให้ท่านได้ไปละลายเงินรูปีที่เหลือที่ห้าง Ambience Mall ซึ่ง
ภายในห้างได้รวบรวมสินค้ามากมายไม่ว่าจะเป็น สินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง สินค้าพื้น
เมือง ของฝากอาหารและผลไม้ต่างๆ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินเดลี
18.25 น. เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบินอินดีโก เที่ยวบินที่ 6E 43
วันที่เจ็ดของการเดินทาง เดลี – กรุงเทพฯ
00.10 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
TOUR CODE : IN261801BZ
อัตราค่าบริการทัวร์แคชเมียร์ (สำหรับคณะเดินทาง 15 ท่านขึ้นไป)
ราคาทัวร์ ผู้ใหญ่ .......................................... xx,xxxx บาท
ราคาทัวร์เด็ก (พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน).............xx,xxxx บาท
พักเดี่ยว เพิ่มราคาทัวร์ท่านละ........................ x,xxxxบาท
ค่าบริการทัวร์รวม
• ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เดลลี-ศรีนาคา-เดลลี-กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Indigo Air
• ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี และค่าภาษีน้ำมัน
• ค่าที่พัก โรงแรมที่พาฮาลแกม 1 คืน และ Deluxe House Boat 3 คืน (พักห้องละ 2 ท่าน)
• ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ และค่าขึ้นกอนโดลาที่กุลมาร์ค เฟส 1
• ค่าวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย (แบบท่องเที่ยว)
• ค่าหัวหน้าทัวร์ที่คอยบริการและดูแลตลอดการเดินทาง ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น และค่าพาหนะตลอดการเดินทาง
• ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น ค่าพนักงานบริการยกกระเป๋า และพนักงานขับรถ
• ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงิน 1,000,000 บาท ต่อท่าน
ค่าบริการทัวร์นี้ไม่รวม
• ค่าขี่ม้าที่โซนามาร์ค และพาฮาลแกม (ราคา 10 เหรียญดอลล่าสหรัฐ หรือ 500 รูปี ต่อท่านต่อแห่ง)
• ค่าขึ้นกอนโดลา เฟส 2 ที่กุลมาร์ค (ราคา 10 เหรียญดอลล่าสหรัฐ หรือ 500 รูปี ต่อท่าน)
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ
• ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามที่สายการบินกำหนด (20 กิโลกรัมต่อท่าน)
• ค่าทำเอกสารผู้ถือต่างด้าว
• ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
เอกสารใช้ยื่นวีซ่าทัวร์แคชเมียร์
1. หนังสือเดินทางตัวจริง ที่ยังมีอายุใช้ได้จนถึงวันเดินทางไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
2. หนังสือเดินทางต้องมีหน้าว่าง สำหรับประทับตราเข้าออกอย่างน้อย 2 หน้าเต็ม
3. รูปถ่ายหน้าตรงรูปสี (ที่ไม่ใช่รูปถ่ายเล่น) พื้นขาวเท่านั้น ขนาดกว้าง 2 นิ้ว ยาว 2 นิ้ว 1 ใบ รูปถ่ายต้องแสดงหน้าเต็มหันตรงและลืมตา ภาพต้องแสดงตั้งแต่ปลายศีรษะจนถึงปลายคางครบถ้วน และไม่มีกรอบ
4. สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนา
5. สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) พร้อมเซ็นต์รับรองสำเนา
7. เขียนชื่อ / ที่อยู่ / เบอร์โทรศัพท์ของบริษัทฯที่ทำงานเป็นภาษาอังกฤษ
การสำรองที่นั่งทัวร์แคชเมียร์
วางมัดจำท่านละ 12,000 บาท โดยผ่านบัญชี นายปนาท ภูเจริญ
ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 242-208444-6 สาขาพุทธมณฑลสาย 2 (ในวันที่ทำการจอง) พร้อมส่งชื่อ-นามสกุลภาษาอังกฤษ หรือหน้าพาสปอร์ต + สำเนาใบโอนเงิน
การยกเลิกทัวร์แคชเมียร์
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป คืนเงินทั้งหมด
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 21 วันขึ้นไป เก็บค่าใช้จ่าย ท่านละ 10,000 บาท
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์
ยกเลิกการเดินทางน้อยกว่า 1-6 วัน เก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100% ของราคาทัวร์
ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาลที่ต้องการันตีมัดจำกับสายการบินหรือค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้ รวมถึงเที่ยวบินพิเศษเช่น Extra Flight และ Charter Flight จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ หรือค่าทัวร์ทั้งหมดเนื่องจากค่าตั๋วเป็นการเหมาจ่ายในเที่ยวบินนั้นๆ
หมายเหตุ
• บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน
• บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
• รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบินเหตุการณ์ทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯโดยจะคํานึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสําคัญ
• บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศเนื่องจากมีสิ่งของห้ามนําเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้องหรือความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสียหรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจํานวนทั้งหมด หรือ บางส่วน
• รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สํารองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
• บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย งดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติหรือ คนต่างด้าวที่พํานักอยู่ในประเทศไทย
• การไม่รับประทานอาหารบางมื้อไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้เพราะการชําระค่าทัวร์เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย
|
ข้อมูลท่องเที่ยวแคชเมียร์ Kashmir
แคชเมียร์เป็นดินแดนทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นภูมิภาคที่มีอากาศหนาวเย็นปกคลุมในช่วงระยะเวลา 6 เดือน และจะอุ่นขึ้นจนกระทั่งร้อนในช่วงกลางวันเป็นเช่นนี้อยู่เพียงหกเดือน ผู้คนในแคชเมียร์เรียกว่าชาวแคชเมียรีที่พูดภาษาเป็นของตนเองและนับถือศาสนาอิสลาม มีเขตแดนติดต่อกับประเทศปากีสถาน และที่ราบสูงทิเบต ด้วยพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 222,000 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกันหลายประเทศ และลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ดินแดนแคชเมียร์ จึงหลากหลายไปด้วยลักษณะของภูมิประเทศ ประกอบไปด้วยเทือกเขา พื้นที่ราบ ทะเลสาบ ทุ่งนา ทุ่งหญ้า
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแคชเมียร์
พื้นที่ : 222,236 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : 10.1 ล้านคน
ศาสนา
จามมู - นับถือฮินดู
แคชเมียร์ - มุสลิม
ลาดัดห์ - พุทธ
เมืองหลวง : ศรีนาคา (ฤดูร้อน), จามมู (ฤดูหนาว)
ฤดูกาล
ฤดูใบไม้ผลิ : เริ่มเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม สภาพอากาศช่วงเวลานี้สวยงามมากอุณหภูมิประมาณ 23C อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 6 C อาจจะมีฝนตกเป็นครั้งคราว
ฤดูร้อน : เดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม อุณหภูมิสูงสุด 29.5 C ต่ำสุด 10.6 C
ฤดูใบไม้ร่วง : เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิในช่วงเวลากลางวันในเดือนกันยายนประมาณ 23 C กลางคืนจะลดลงเหลือเวลาประมาณ 10 C จนถึงเดือนตุลาคม ถัดจากช่วงเวลานี้ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่เสื้อกันหนาวจำเป็นมาก
ฤดูหนาว : เดือนธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคมอุณหภูมิเฉลี่ย –1.9 C ถึง 7.3 C
ขนาดพื้นที่ : 105 ตารางกิโลเมตร
ความสูง : 1730 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ประชากร : 930,000 คน (ค.ศ. 2001)
ภาษา : Kashmiri, Urdu, Hindi, English
แคชเมียร์
• แคชเมียร์ รัฐที่ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย และเป็นดินแดนที่งดงามกลางหุบเขาหิมาลัย มีเขตแดนติดต่อกับประเทศปากีสถาน และที่ราบสูงทิเบต ด้วยพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 222,000 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากมีอาณาเขตติดต่อกันหลายประเทศ และลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ดินแดนแคชเมียร์ จึงหลากหลายไปด้วยลักษณะของภูมิประเทศ ทั้งเทือกเขา พื้นที่ราบ ทะเลสาบ ทุ่งนา ทุ่งหญ้า รวมทั้งความแตกต่างทางศาสนาและชนชาติ ถึงขนาดเปรียบเปรยกันว่าดินแดนแห่งนี้เป็นสวรรค์บนดิน บ้างก็เปรียบเทียบว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเอเชีย ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งจะต้องเดินทางมาเยือนแคชเมียร์สักครั้ง แต่เสน่ห์และความงามของแคชเมียร์ กลับถูกบดบังด้วยภาพเหตุการณ์รุนแรงในอดีต ทั้งปัญหาการสู้รบระหว่าง อินเดียกับปากีสถาน และปัญหาผู้ก่อการร้าย จึงเป็นอุปสรรคต่อบรรยากาศท่องเที่ยวและการลงทุนมากพอสมควร ทั้งที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านมาหลายปีแล้ว
• จากประวัติศาสตร์อันยาวนานที่แผ่นดินแคชเมียร์ ผ่านความร้อนผ่านหนาวและภัยสงครามที่ยาวนาน ได้หล่อหลอมให้ชาวแคชเมียร์เป็นคนที่มีความสุภาพ อ่อนน้อม รักความสงบ มีความงดงามอยู่ในใจ ซึ่งผู้ไปเยือนสามารถสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกและจากแววตาที่เป็นมิตร ด้วยธรรมชาติที่งดงามนั่นเอง ทำให้ชาวแคชเมียร์มีความเป็นศิลปินในตัว และถ่ายทอดผลงานด้วยฝีมือที่เลื่องชื่อ คือ ผ้าและพรมแคชเมียร์ และเปเปอร์มาเชย์ ผลิตออกมาเป็นข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับ มากไปด้วยลวดลายหลากสีสัน
• อาชีพสำคัญของชาวแคชเมียร์ คือการเลี้ยงสัตว์ การปลูกข้าว และปลูกผลไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะแอป เปิ้ลที่ปลูกในแคชเมียร์ ถือว่าเป็นแอปเปิ้ลที่มีรสชาติอร่อยที่สุดในอินเดีย
• ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนในแคชเมียร์ (เดือนเมษายน-กันยายน) จะมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกไม้และสวนสวย โดยสวนที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ สวนโมกุล ที่สร้างในสมัยของราชวงศ์โมกุลแทบทั้งสิ้น สำหรับต้นไม้ที่มีความสวยงามและโดดเด่น คือ ต้นชีน่า หรือต้นเมเปิ้ล ซึ่งใบของต้นไม้นี้มีสีแดงเพลิงสวยงาม และใบจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล
• วิถีชีวิตของผู้คนในทะเลสาบดาล เป็นชีวิตที่คู่กับสายน้ำอันเงียบสงบ โดยมีเรือเป็นพาหนะสำคัญของการสัญจรในทะเลสาบกว้างใหญ่ แต่งแต้มสีสันด้วยสวนผักลอยน้ำ และตลาดน้ำยามเช้าที่มีชีวิตชีวาพอดู ชีวิตของชาวแคชเมียร์จึงดำเนินไปไม่แตกต่างชาวเอเชียอื่น ๆ ที่มีแม่น้ำ ลำคลอง เป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิต
• นอกจากทุ่งดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ทิวทัศน์ของเทือกเขาหิมาลัยที่โอบล้อมแคชเมียร์ ก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งกิจกรรมการเดิน ขี่ม้าชมธรรมชาติของภูเขาหิมะขาวโพลน รวมทั้งการปีนเขา ซึ่งเป็นกิจกรรมในหน้าร้อน และการเล่นสกีก็เป็นกิจกรรมยอดนิยมในฤดูหนาว โดยสถานที่สำหรับเล่นสกี คือ กูลมาร์ค เป็นทุ่งหญ้าเชิงเขา ห้อมล้อมไปด้วยป่าสนเมืองหนาว ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,730 เมตร และที่ กูลมาร์คยังมีสนามกอล์ฟตั้งอยู่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
• แคชเมียร์ ถือว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่เหมาะกับการพักผ่อน ชมธรรมชาติที่สวยงาม มาดูหิมะ มาดูทุ่งดอกไม้ และสัมผัสอัธยาศัยไมตรีของผู้คนที่นี่
แคชเมียร์ เป็นเมืองที่มีประเพณีอันหลากหลาย มีสวนริมน้ำที่เป็นที่รู้จักในชื่อ “สวนโมกุล” มีเกร็ดประวัติที่ย้อนกลับไปราว 4 – 5 ศตวรรษที่ผ่านมาได้กล่าวถึง ความรักของชาวแคชเมียร์ที่มีต่อสวนนี้ ซึ่งได้มีการแข่งขันการจัดแต่งสวนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์ และชาวแคชเมียร์ได้พัฒนา วิถีชีวิตและสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของตนเอง จนเกิดเป็นศิลปะและหัตถกรรมต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในบรรดาสิ่งดึงดูดที่ยิ่งใหญ่อันน่าประทับใจของชาวแคชเมียร์ คือ เรือบ้านในทะเลสาบดาล ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงการครองราชย์ของผู้ปกครองแคชเมียร์ ที่ไม่อนุญาตให้คนอังกฤษเป็นเจ้าของที่ดิน ทำให้ชาวอังกฤษต้องหาทางออกโดยการสร้างเรือเป็นที่อยู่อาศัย จึงเป็นที่กล่าวกันว่า เมื่อได้มาเยือนแคชเมียร์แล้ว หากไม่ได้พักแรมบนเรือบ้าน ถือว่ายังมาไม่ถึงแคชเมียร์
แคชเมียร์ แบ่งเป็นเขตใหญ่ ๆ 3 เขต คือ ลาดัค จัมมู และศรีนาคา
• ลาดัค เป็นเมืองที่อยู่สูงสุดและใหญ่ที่สุดในแคชเมียร์ เพราะมีพื้นที่ครอบคลุม 1 ใน 3 ของพื้นที่ ทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วยหุบเขาและที่ราบสูง โดยชุมชน ในลาดัคเป็นชุมชนชาวพุทธ นิกายมหายานที่ได้รับอิทธิพลมาจากทิเบต ดังนั้นสิ่งที่ได้พบเห็นในเมืองลาดัค คือ วัดพุทธ ในรูปแบบของมหายานสายทิเบต ลักษณะผู้คน และการแต่งกาย จึงพูดได้อย่างเต็มปากว่าที่นี่คือทิเบตน้อย
• จัมมู เป็นเมืองหลวงในฤดูหนาวของแคชเมียร์ ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าและที่ราบตามเชิงเขา มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 300 เมตร ดังนั้นในหน้าร้อนจึงมีอากาศร้อนอบอ้าว แต่ในหน้าหนาวจะเป็นแหล่งที่เหมาะสำหรับมาหลบความหนาวเย็นจากลาดัค
• แคชเมียร์ "ดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน" ถ้ามาแคชเมียร์ ต้องไม่พลาดกับการไปสัมผัสเมือศรีนาคา เมืองหลวงในฤดูร้อน ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,730 เมตร เมืองที่ได้เชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบและสายน้ำ สวนดอกไม้ ทิวทัศน์แห่งขุนเขาและงานศิลปะที่ประดิษฐ์จากไม้ รวมทั้งการได้ไปชมสวนดอกไม้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นั้นคือการตกแต่งสวนสวยด้วยงานศิลปะที่ผสมผสานจากหลายหลายรูปแบบ
ศรีนาคาเมืองหลวงแคชเมียร์
ข้อมูลทั่วไปของศรีนาคา
ศรีนาคาเป็นเมืองป้อมปราการที่เข้มแข็ง ด้วยการใช้ถุงทรายสร้างเป็นบังเกอร์ มีรถสรรพาวุธและทหารเดินลาดตระเวนจำนวนมากในท้องถนน รัฐบาลจะเข้มงวดในการตรวจสอบว่าคุณจะไปส่วนไหนของแคชเมียร์รวมทั้งนักท่องเที่ยวต้องพกพาหนังสือเดินทางติดตัวตลอดเวลา และในอดีตไม่อนุญาตนักท่องเที่ยวถ่ายภาพทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องทางการทหาร ซึ่งรวมถึงสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของรัฐบาลและสะพานด้วย ปัจจุบันได้มีการอนุโลมมากขึ้นแล้ว
ศรีนาคาเป็นเมืองหลวงฤดูร้อนของแคว้นจามมูและแคชเมียร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลสาบและทางน้ำ เนื่องจากมีทะเลสาบดาลซึ่งขนาดใหญ่และทะเลสาบนากินที่ห่างออกไปทางทิศตะวันตก โดยทางเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบทั้งสอง ซึ่งบริเวณโดยรอบจะที่เต็มไปด้วยเรือกสวนและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่มีความสวยงามดุจภาพวาด มีมัสยิดที่สำคัญและแท่นบูชาของศรีนาคาที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานจากหลายศาสนา ศรีนาคาหมายถึง “เมืองที่สวยงาม“ ศรีนาคาถูกค้นพบโดยพระเจ้าอโศกมหาราช ในศตวรรษที่ 3
ศรีนาคาอยู่ห่างจากเดลีไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 676 ก.ม. 1 ใน 4 ของตัวเมืองมีแม่น้ำ เจห์ลัม พาดผ่าน มีสะพานข้าม 7 แห่ง แม้ว่าสะพานแต่ละแห่งจะมีชื่อเฉพาะ และพวกเขายังเรียกชื่อสะพานตามลำดับหมายเลขเช่นกัน
อาหารแคชเมียร์
มีรสชาติเข้มข้น และหอมกรุ่นด้วยส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่น อบเชย , กระวาน, กานพลู, พืชไม้ดอกสีม่วง อาหารจานหลักของคนแคชเมียร์ คือ ข้าว ข้าวของที่นี่เมล็ดแน่น เม็ดข้าวแข็งเรียว เนื้อไก่ เนื้อแกะและเนื้อปลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของอาหารชาวแคชเมียร์ การทำกับข้าวทุกวันจะประกอบด้วย ผักและเนื้อในจานเดียวกัน เช่น เนื้อแกะและหัวผักกาด, เนื้อไก่กับผักขม, เนื้อปลากับรากบัว เป็นอาหายอดนิยมของที่นี่อาหารจำพวกผัก รวมถึงมันปิ้งในน้ำเกรวี่อันเข้มข้น และ คอทเทจ ในซอสอันเหนียวหนืด การทำอาหารของชาวแคชเมียร์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรสหวานโดยพวกเขาจะใช้ Kahva หรือชาเขียวแทน
การช็อปปิ้ง
งานหัตถกรรมของชาวแคชเมียร์ถูกกล่าวขวัญว่ามีความประณีตงดงามโดยเฉพาะศิลปะการทอพรมของแคชเมียร์ที่สืบทอดมาจากทางสายเอเชียกลาง ด้วยการออกแบบสไตล์เปอร์เชี่ยน ลวดลายของพรมมีตั้งแต่ลวดลายที่เรียบง่ายไปจนถึงลวดลายที่ไม่ธรรมดาจนยากที่จะเข้าใจซึ่งงานทุกชิ้นเป็นงานฝีมือ การทำเรือบ้านอยู่อาศัยบนทะเลสาบ และเรือสำราญชิคาร่าที่ใช้เดินทางในชีวิตประจำวันจากบ้านเรือสู่พื้นดินและการทำมาค้าขายผ่านตลาดลอยน้ำที่ดูมีชีวิตชีวามากกว่าตลาดบนบก
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของแคชเมียร์
พาฮาลแกม
พาฮาลแกมห่างจากศรีนาคาไปทางทิศตะวันออก 95 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนที่ลาดเอียงทางทิศใต้ของเทือกเขาหิมาลัย เป็นจุดที่เชื่อต่อของแม่น้ำลิตเติ้ล ความสูง 2,440 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย กลายเป็นฐานที่มั่นสำหรับผู้ที่เดินทางอพยพที่จะไป Kishtwar และ Suru Valley ในลาดักห์ และสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญที่จะไป Amarnath อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นความเชื่อของศาสนาฮินดูว่าเป็นสถานที่สถิตของพระศิวะ จะมีชาวฮินดูจำนวนมากมาแสวงบุญกันที่นี่ในช่วงเดือนสิงหาคม
พาฮาลแกมมีทุ่งมัสตาร์ดเป็นช่วงๆ และเป็นสถานที่ตกปลาเทร้าที่นิยมอีกแห่งด้วย การเดินทางไปยังพาลฮาแกรมนั้นใช้ระยะเวลาเดินทางเพียงระยะสั้นๆ แต่ด้วยเป็นภูเขาลัดเลาะทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางจากศรีนาคาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยผู้ที่แสวงบุญมักใช้การเดินเท้า ,ขี่ม้า, หรือปั่นจักรยาน เส้นทางนี้จะผ่านจุดที่เป็นทุ่ง Pompore เป็นทุ่งของพืชไม้ดอกสีม่วงที่มีชื่อเสียง ซึ่งเพาะปลูกในแคชเมียร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 พืชไม้ดอกสีม่วงจะบานสะพรั่งในปลายฤดูใบไม้ร่วง
กุลมาร์ค Meadows of flower
กุลมาร์คหรือ”ทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ คือหนึ่งในที่พักร้อนในหุบเขาที่สวยงามที่สุด เป็นทุ่งที่ราบสูงที่มีขนาดใหญ่ระยะทาง 52 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของศรีนาคาและสูง 2,730 สนามกอล์ฟ (ในหน้าร้อน) ที่สูงที่สุดในโลก และมีสถานที่เล่นสกีในฤดูหนาว กุลมาร์คเป็นรีสอร์ทสำหรับเล่นสกีที่สำคัญของอินเดียและเป็นที่ภาคภูมิใจของแคชเมียร์ สนามกอล์ฟถูกห้อมล้อมไปด้วยกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย ซึ่งมีป่าสนอยู่เบื้องหลังสนามกอล์ฟด้วย ทุ่งหญ้าถูกล้อมรอบโดยถนนที่เชื่อมต่อไปยังศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยว, คลับเฮ้าส์ของสนามกอล์ฟ, มีป้ายรถเมล์บริการ
โซนามาร์ค
การขับรถไปโซนามาร์คจะผ่านหุบเขา Sindh ซึ่งจะพบทิวทัศน์ที่น่าตื่นเต้นจากชาวชนบทจากแคชเมียร์ โซนามาร์คอยู่สูง 2,730 เมตรจากระดับน้ำทะเล โซนามาร์คมีฉายาว่า”ทุ่งหญ้าแห่งทองคำ” มีระยะทางห่างจากศรีนาคา 87 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง มีภูเขาหิมะเป็นฉากหลังแม่น้ำสินธุที่ไหลลดเลี้ยวตลอดทาง
โซนามาร์คเป็นสถานที่เริ่มต้นเดินทางมุ่งหน้าไปยังลาดักห์ ข้าZojila เส้นทางสายสำคัญที่ผ่านเข้าไปเทือกเขาหิมาลัย หรือเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดักห์”
สวนโมกุล
จักรพรรดิโมกุลนามว่า “อักบาร์” ได้ปกครองแคชเมียร์ในปี ค.ศ. 1585 และได้ยกระดับการบริหารโดยเพิ่มระบบการปกครองที่มีความยุติธรรมโดยการกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ส่วนต่างๆ และได้สถาปนาเมืองศรีนาคาขึ้นบริเวณเขาฮารีพาบัท และสร้างสรรค์ความสวยงามขึ้นที่นี่ นาวแคชเมียร์นิยมชมชอบจักรพรรดิโมกุล ผู้ซึ่งเสด็จมาเยี่ยมเยือนพวกเขาบ่อยครั้ง ชาวแคชเมียร์ดำรงชีพจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางตอนเหนือของอินเดีย และสร้างเรือกสวนไร่น่าแบบขั้นบันใดมีทางน้ำไหลผ่าน และมีความสุขกับการใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์ ในขณะเดียวกันชาวเมืองก็ภาคภูมิใจกับสวนสวรรค์ หนึ่งสวนนี้เคยมีระเบียงยื่นลงไปทางทะเลสาบ แต่มีคนเข้าไปถึงจุดนั้นน้อยมากจึงได้ถูกความทันสมัยเข้ามาแทนที่ ด้วยการตัดถนนและมีร้านค้าอยู่ริมถนนมากมาย การออกแบบสวนแห่งนี้ช่างวิจิตรตระการตา เมื่อเทียบกับยุคสมัยก่อนแล้วการก่อสร้างและวิธีการทำน้ำพุภายในสวนเกิดจากการใช้หลักการธรรมชาติอย่างชาญฉลาดยิ่งนัก
สวนชิลิมาห์
ก่อสร้างโดยจักรพรรดิ Jehangir (เจฮังคีร์) เพื่อพระมเหสีของเขา สวนชาลิมาห์มีระยะทาง 15 กิโลเมตรจากศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นสวนที่สวยงามมีทิวทัศน์กว้างใหญ่ไพศาลกว่าสวนอื่นๆ สวนแห่งนี้มีขนาด 539*182เมตรและมีลานกว้าง 4 แห่ง มีหนึ่งแห่งยกตัวขึ้นสูงกว่าที่เหลือ มีคลองพร้อมด้วยหินในลำคลองที่มีวาวน้ำทอดผ่านกลางสวน ลานแห่งที่ 4 ครั้งหนึ่งเคยใช้รองรับเชื้อพระวงศ์ และมีส่วนที่อยู่สูงที่สุดของสวนทั้ง 4 ตั้งอยู่ตอนบนเรียกว่า Beautiful Baradari บ้านพักฤดูร้านภายในสวนมีวงแหวนของเสาหินที่สร้างจากหินอ่อนสีดำ ซึ่งนำมาจาก Pampore ถือเป็นไฮไลท์ของผู้มาเยือนที่จะได้ชม
ช่วงเดินทางที่เหมาะสมของแคชเมียร์
เที่ยวแคชเมียร์ช่วงเทศกาล : สงกรานต์ จะได้เห็นทุ่งมัสตาร์ทสีเหลืองเป็นขั้นบรรไดเมื่อมองจากที่สูงขณะบินเข้าสู่เมืองศรีนาคา แต่ถ้าสามารถเที่ยวก่อนหน้าสงกรานต์ได้จะดีกว่ามากเพราะทุ่งทิวลิปจะยังสวยสมบูรณ์
เที่ยวแคชเมียร์ช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม : ท่นที่ชอบท่องเที่ยวช่วงต้นไม้ผลัดใบก็สามารถมาเที่ยวแคชเมียร์ในช่วงนี้ได้เพราะจะเห็นต้นชิน่า(คล้ายต้นเมเปิ้ล)เปลี่ยนสีไล่เฉดเป็นเหลืองบ้างน้ำตาลอ่อนบ้างสวยงามมาก
เที่ยวแคชเมียร์ช่วงหน้าหนาว(ปีใหม่) : จะเห็นกลุ่มเทือกเขาของแคชเมียร์ปกคลุมด้วยหิมะหนาสวยงามดุจดั่งคำว่า "สวรรค์ผืนบนดิน" ในการทำกิจกรรมในหน้าหนาวนี้ท่านจะได้สนุกสนานกับการเหยียบย่ำหิมะปุยขาวอย่างเต็มที่ ทั้งสกี สเลดไม้ลากเลื่อนท่านที่เป็นคนชอบเล่นหิมะไม่ควรพลาดการเที่ยว่แคชเมียร์หน้าหนาวเป็นอย่างยิ่ง
ผลงานชิ้นยอดของเมืองศรีนาคาที่รังสรรค์สวนทิวลิปขนาดใหญ่ระดับเอเชียแปซิฟิคขึ้น เป็นเสมือนสัญลักษณ์การท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของแคชเมียร์ ผู้เดินทางท่องเที่ยวแคชเมียร์สามารถเลือกเดินทางเพื่อให้ได้เห็นทุ่งทิวลิปขนาดใหญ่ยักษ์นี้สวยที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนมีนาคม แต่เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายนแล้วจะเริ่มเหี่ยวเฉ่าเพราะแสงแดดแผนเผา ท่านที่นิยมท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์และเลือกที่จะมาเยือนแคชเมียร์ในช่วงเมษายนนั้นออกจะผิดหวังเล็กน้อยเพราะไม่ได้เห็นความงามที่เบ่งบานเต็มที่จะมีบางส่วนที่คอตกแล้วกลีบใบหงิกงอไปแล้ว และยิ่งเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนจะยิ่งแทบไม่เห็นความงามของทุ่งทิวลิปเลย
นอกจากการท่องเที่ยวแคชเมียร์ตามเทศกาลแล้วท่านยังสามารถเลือกเที่ยวในเดือนอื่นๆ ได้อีกด้วยเพราะแคชเมียร์มีทิวทัศน์งดงามตลอดทั้งปี หากท่านเลือกท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อนซึ่งแดดจัดอาจรู้สึกร้อนนิดหน่อยแต่ภูมิทัศน์จะงดงามเขียวขจีสุดตามียอดเขาหิมะตัดกับท้องฟ้าสีเข้มงดงามน่าประทับใจ
การแต่งกาย (ในฤดูหนาว) : เสื้อขนสัตว์หนาๆ
โปรแกรมทัวร์แคชเมียร์ เที่ยวแคชเมียร์ แพคเกจทัวร์แคชเมียร์ ประจำเดือน |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนมกราคม |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนกุมภาพันธ์ |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนมีนาคม |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนเมษายน |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนพฤษภาคม |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนมิถุนยน |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนกรกฎาคม |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนสิงหาคม |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนกันยายน |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนตุลาคม |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนพฤศจิกายน |
* ทัวร์แคชเมียร์ เดือนธันวาคม |