อิตาลี (มิลาน)-สวิส-ฝรั่งเศส-เยอรมัน-ออสเตรีย-เชก
10 วัน 7 คืน โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)
CODE TOUR : EU173110BF_Italy_Swiss_France_Germany_Austria_Czech_10D_7N_EK_Oct-Dec18
· เที่ยวมหานครแห่งแฟชั่นมิลาน (Milan) เมืองหลวงแห่งแฟชั่นโลก
· เที่ยวเมืองสวยแคว้นอัลซาส เมืองกอลมาร์ (Colmar) อองกีเชม (Eguisheim) ริคเวียร์ (Riquewihr) และ สตาร์สบูร์ก (Strasbourg)
· ชมจัตุรัสมาเรียน-พลาสท์ (Marienplatz) จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค
· เดินเล่นกับเมืองสวยที่คาร์โลวี วารี (Karlovy vary)
· สัมผัสมนต์เสน่ห์ของกรุงปราก (Prague) ซึ่งจะทำให้คุณหลงรักแบบไม่รู้ลืม
· เข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace)
***ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าหมุน 360 องศา สู่ยอดเขาทิตลิส ***
***ล่องเรือทะเลสาปที่ป่าดำ (Black forest)***
***พักเมืองแห่งทะเลสาปโคโม่ ***
***พิเศษสุดกับ 3 เมนูพื้นเมือง
เป็ดสไตล์โบฮีเมียน, ขาหมูเยอรมัน และเบียร์***
กำหนดการเดินทาง
วันที่ 30 ก.ย.-9 ต.ค. 61
|
63,900.-
|
วันที่ 14-23 ต.ค.,28 ต.ค.-6 พ.ย. 61
|
63,900.-
|
วันที่ 27พ.ย.-6 ธ.ค. 61
|
65,900.-
|
เส้นทางการเดินทาง
วัน
|
โปรแกรมการเดินทาง
|
เช้า
|
กลางวัน
|
ค่ำ
|
โรงแรมที่พัก
หรือ เทียบเท่า
|
1
|
กรุงเทพฯ – ดูไบ
|
✈
|
✈
|
✈
|
|
2
|
ดูไบ – มิลาน – ดูโอโม่มิลาน – Fox town outlet – โคโม่
|
✈
|
O
|
O
|
CRUISE COMO
|
3
|
โคโม่ – แองเกิ้ลเบิร์ก – ยอดเขาทิตลิส – ลูเซิร์น – ไฟร์บวร์ก
|
O
|
O
|
O
|
STADT FREIBURG
|
4
|
ไฟร์บวร์ก – กอลมาร์ – อองกีเชม – รีคเวียร์ – สตราสบูร์ก
|
O
|
O
|
O
|
MERCURE PALAIS DES CONGRES
|
5
|
สตราสบูร์ก – ทิทิเซ่ – ล่องเรือที่ป่าดำ – มิวนิค
|
O
|
O
|
X
|
MERCURE MUENCHEN OST MESSE
|
6
|
มิวนิค – ฮัลสตัท – เวียนนา
|
O
|
O
|
O
|
SENATOR VIENNA
|
7
|
เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – เชสกี้ ครุมลอฟ
|
O
|
O
|
O
|
GOLD HOTEL
|
8
|
เชสกี้ ครุมลอฟ – คาร์โลวี วารี – ปราก
|
O
|
O
|
O
|
INTERNATIONAL PRAGUE
|
9
|
ปราสาทแห่งปราก – สนามบิน
|
O
|
✈
|
✈
|
|
10
|
ดูไบ – กรุงเทพฯ
|
✈
|
✈
|
✈
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โปรแกรมการเดินทาง
|
วันที่ 1:
|
กรุงเทพฯ – ดูไบ
|
|
|
17.30 น.
|
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
|
|
|
21.05 น.
|
ออกเดินทางสู่กรุงมิลาน โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 373
***คณะเดินทางวันที่ 28 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 20.35 น. และถึงดูไบ เวลา 00.50 น. ออกเดินทางต่อเวลา 03.45 น. และถึงมิลาน เวลา 07.45 น.***
|
|
|
วันที่ 2:
|
ดูไบ – มิลาน – ดูโอโม่มิลาน – Fox town outlet – โคโม่
|
|
|
00.50 น.
|
เดินทางถึง สนามบินดูไบ แวะรอเปลี่ยนเครื่อง
|
|
|
03.35 น.
|
ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบิน EK 101
|
|
|
08.15 น.
|
ถึง สนามบินมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 28 ตุลาคม 2561) นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ผสมผสานกัน ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นำท่านชม แกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ซึ่งนับว่าเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือลีโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณ ด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
|
|
|
บ่าย
|
นำท่านเดินทางสู่ฟ๊อกซ์ทาวน์ เอ้าท์เลท (Fox town outlet) ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อิสระให้ท่านได้เดินช๊อปปิ้งที่เอ้าเลทซึ่งเป็นเอ๊าท์เลทขนาดใหญ่ศูนย์รวมร้านค้ากว่า 160 ร้าน เช่น แว่นตา ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา แฟชั่นแบรนด์แนมชื่อดังอาทิ เช่น Salvatore Ferragamo, D&G, Armani, Burberry, Bally, Diesel, Calvin Klein, Gant, Prada, Gucci, Prada, Nike, Fendi, Tod’s, Versace, Valentino, Furly, Guess, Hugo Boss, Lacoste, Levi’s และอื่น ๆ อีกมากมาย จากนั้นนำท่านเดินสู่เมืองโคโม่ (COMO) แห่งแคว้นลอมบาร์เดีย เมืองที่เป็นที่ตั้งของ ทะเลสาปโคโม่ LAKE COMO ผู้คนทั่วโลกกล่าวขานกันว่า เป็นทะเลสาปสวยที่สุดในประเทศอิตาลี ด้วยพื้นที่กว่า 146 กิโมเมตร ท่านจะได้ชมความสวยงามของเมืองที่ตั้งรายล้อมทะเลสาปแห่งนี้เอาไว้
|
|
|
ค่ำ
|
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก CRUISE COMO หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 3:
|
โคโม่ – แองเกิ้ลเบิร์ก – ยอดเขาทิตลิส – ลูเซิร์น – ไฟร์บวร์ก
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
จากนั้นเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านแองเกิ้ลเบิร์ก (Engelberg) ซึ่งตั้งอยู่เชิงขุนเขาที่สวยงามมีระดับอีกแห่งหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ผ่านเส้นทางไฮไลท์ของสวิตเซอร์แลนด์ และวิวทิวทัศน์สวยงามของทุ่งหญ้าตัดกับหิมะอันขาวโพลนปกคลุมยอด เขา นำท่านขึ้นกระเช้าลอยฟ้าทันสมัยระบบใหม่ล่าสุดหมุน 360 องศา รอบตัวเอง ชมทัศนียภาพอันตระการตาได้รอบทิศทางตามเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส (Titlis) เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto)ที่ไม่เคยละลาย เชิญเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะบนลานสกี สุดแสนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา อาหารพื้นเมือง
|
|
|
บ่าย
|
เดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น จากนั้นทำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมืองไฟร์บวร์ก (FREIBURG) ประเทศเยอรมัน
|
|
|
ค่ำ
|
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก STADT FREIBURG หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 4:
|
ไฟร์บวร์ก – กอลมาร์ – อองกีเชม – รีคเวียร์ – สตราสบูร์ก
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
นำท่านเดินทางสู่ แคว้นอัลซาส (Alszce) ดินแดนสองวัฒนธรรมฝรั่งเศสและเยอรมนี แล้วนำท่านสู่เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d'Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมา จนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1234-1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
|
|
|
บ่าย
|
เดินทางต่อสู่หมู่บ้านอองกีเชม (Eguisheim) ประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย ท่านจะได้ชมชมความงดงามไปตามถนนก้อนกรวดอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน ตื่นตาไปกับความงดงามของเหล่าอาคาร บ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส ชมลานน้ำพุที่สร้างในแบบเรเนสซอง เดินทางต่อสู่เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาคที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมา ก่อนนำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมด จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alszce) ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม
|
|
|
ค่ำ
|
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE PALAIS DES CONGRES หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 5:
|
สตราสบูร์ก – ทิทิเซ่ – ล่องเรือที่ป่าดำ – มิวนิค
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
นำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) นอกจากเป็นเมืองต้นกำเนิดของเค้กแบล็กฟอเรสต์รสเลิศแล้ว ทิติเซ่ ยังเป็นแหล่งผลิต นาฬิกากุ๊กกู ที่ดีที่สุดในโลก อิสระให้ท่านชมทัศนียภาพของทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ อันมีเหตุมาจากพื้นที่ป่ามีต้นสนปกคลุมอยู่มากจนแสงแดดไม่สามารถส่องทะลุเข้าไปข้างในป่าได้อย่างทั่วถึง ทำให้เมื่อมองจากที่ไกลๆ จะเห็นป่าเป็นแนวทะมึนทึบ อันเป็นที่มาของชื่อเรียก Black Forest หรือ ป่าดำ นั้นเอง ให้ท่านได้มีโอกาสเข้าชมโรงงานผลิตนาฬิกากุ๊กกู โดยลักษณะเด่นของนาฬิกากุ๊กกูจะต้องทำจากไม้สนแกะสลักถ่วงด้วยตุ้มน้ำหนัก มีฟังก์ชันการทำงานทั้งตีบอกเวลาบางเรือนมีนกร้อง กล่องดนตรี ตุ๊กตาเต้นรำ และคนเลื่อยไม้ อันเป็นอาชีพหลักของคนในหมู่บ้านทิทิตเซ่อีกด้วย ท่านสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกจากโรงงานนาฬิกาได้ตามอัธยาศัย ให้ท่านได้ล่องเรือชมความงามของทัศนียภาพป่าดำ (ในกรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธ์ไม่คืนค่าใช้จ่าย)
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน + เบียร์)
|
|
|
บ่าย
|
เดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียน พลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ในช่วงฤดูร้อน อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมและของที่ระลึกตามอัธยาศัย
|
|
|
ค่ำ
|
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE MUENCHEN OST MESSE หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 6:
|
มิวนิค – ฮัลสตัท – เวียนนา
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
ออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
|
|
|
บ่าย
|
นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของ ป่าไม้แห่งออสเตรียจากนั้นเชิญช้อปปิ้งสินค้าเครื่องแก้วสวาร็อฟสกี้ หรือสินค้านานาชนิด อาทิเช่น Louis Vitton, Gucci, ร้านนาฬิกา Bucherer, สินค้าเสื้อแฟชั่นทันสมัย เช่น Zara, H&M ฯลฯ และสินค้าของฝากเช่น ช๊อคโกแลตโมสาร์ท ในย่าน ถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrabe) ใจกลางกรุงเวียนนา
|
|
|
ค่ำ
|
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก SENATOR VIENNA หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 7:
|
เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – เชสกี้ ครุมลอฟ
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
นำเข้าชมความงดงามของ พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮับสบวร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744 - 1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรง และพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
|
|
|
บ่าย
|
นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) นำชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก นำชมปราสาทครุมลอฟ (Krumlov) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปร๊าก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค Senete Square และโบสถ์เก่ากลางเมือง
|
|
|
ค่ำ
|
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก GOLD HOTEL หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 8:
|
เชสกี้ ครุมลอฟ – คาร์โลวี วารี – ปราก
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy vary) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ค เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ
|
|
|
กลางวัน
|
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (เป็ดสไตล์โบฮีเมียน)
|
|
|
บ่าย
|
นำเดินชมเมืองคาร์โลวี วารี ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกที่จะมาใช้บริการรักษาสุขภาพตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชิญทดลองดื่มน้ำแร่ซึ่งต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้วพอร์ซเลนที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ นำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเชก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชกโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวชมประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง ให้เวลาท่านเดินอิสระเดินเล่นย่านเมืองเก่า ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น เครื่องแก้วโบฮีเมียน หรือเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม อาทิเช่น Louis Vitton, Furla, Gucci, Lacoste เป็นต้น
|
|
|
ค่ำ
|
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
|
|
|
ที่พัก
|
เดินทางเข้าสู่ที่พัก INTERNATIONAL PRAGUE หรือเทียบเท่า
|
|
|
วันที่ 9:
|
ปราสาทแห่งปราก – สนามบิน
|
|
|
เช้า
|
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
|
|
|
นำเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 ชมมหาวิหารเซนต์ วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปร๊าก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอณุญาตให้เข้าชม) แล้วชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย แล้วเดินชมย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก วางจำหน่ายอยู่มากมาย จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ล (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์
|
|
|
12.00 น.
|
นำคณะเดินทางสู่ สนามบินเวทชาท เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
|
|
|
15.55 น.
|
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK 140
***คณะเดินทางวันที่ 28 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 15.15 น. และถึงดูไบ เวลา 00.20 น. ออกเดินทางต่อเวลา 03.30 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 12.35 น.***
|
|
|
วันที่ 10:
|
ดูไบ – กรุงเทพฯ
|
|
|
00.20 น.
|
เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
|
|
|
03.30 น.
|
ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 376
|
|
|
13.15 น.
|
ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ
|
|
***ร้านค้าในยุโรปส่วนใหญ่จะปิดทำการในวันอาทิตย์, ขอสงวนสิทธิ์การย้ายเมืองที่เข้าพัก เช่น กรณีที่เมืองนั้นมีการจัดงาน TRADE FAIR ฯลฯ ไปเข้าพักเมืองที่ใกล้เคียงแทน และโปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
|
|
กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทุกข้อ
|
|
|
หมายเหตุ
|
1. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง รวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทาง
หากท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง
2. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
3. บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
4. กรณีที่คณะไม่ครบจำนวน 15 ท่าน ทางบริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทาง โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 14 วันก่อนการเดินทาง
5. เมื่อท่านทำการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว
|
|
|
ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
|
|
|
โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ
และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และ
ความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
|
|
|
|
|
|
|
โปรแกรม : LAKE OF EUROPE
อิตาลี (มิลาน)-สวิส-ฝรั่งเศส-เยอรมัน-ออสเตรีย-เชก 10 วัน 7 คืน
โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)
กำหนดวันเดินทาง: 30 ก.ย.-9 ต.ค. 61 / 14-23 ต.ค.,28 ต.ค.-6 พ.ย. 61
อัตราค่าบริการ
|
ราคา
|
ผู้ใหญ่พักคู่ 1 ห้อง ท่านละ
|
63,900.-
|
ผู้ใหญ่ 3 ท่าน 1 ห้อง ท่านละ (กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก)
|
63,900.-
|
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
|
11,900.-
|
เด็กมีเตียง (อายุไม่เกิน 12 ปี) พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ท่านละ
|
63,900.-
|
เด็กไม่มีเตียง (อายุไม่เกิน 12 ปี) พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ท่านละ
(กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก)
|
63,900.-
|
ราคาทัวร์ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
|
45,900.-
|
ไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นประเทศเชก
(ผู้ยื่นวีซ่าต้องชำระเงินตรงกับศูนย์ยื่นวีซ่าในวันยื่น เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 3,000 บาท )
|
ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ
(ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)
|
80,000.-
|
** โรงแรมในยุโรป ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าพักแบบไม่มีเตียงเสริม **
|
กำหนดวันเดินทาง: 27 พ.ย.-6 ธ.ค. 61
อัตราค่าบริการ
|
ราคา
|
ผู้ใหญ่พักคู่ 1 ห้อง ท่านละ
|
65,900.-
|
ผู้ใหญ่ 3 ท่าน 1 ห้อง ท่านละ (กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก)
|
65,900.-
|
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
|
11,900.-
|
เด็กมีเตียง (อายุไม่เกิน 12 ปี) พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ท่านละ
|
65,900.-
|
เด็กไม่มีเตียง (อายุไม่เกิน 12 ปี) พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ท่านละ
(กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก)
|
65,900.-
|
ราคาทัวร์ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
|
47,900.-
|
ไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นประเทศเชก
(ผู้ยื่นวีซ่าต้องชำระเงินตรงกับศูนย์ยื่นวีซ่าในวันยื่น เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 3,000 บาท )
|
ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ
(ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)
|
80,000.-
|
** โรงแรมในยุโรป ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าพักแบบไม่มีเตียงเสริม **
|
อัตราค่าบริการนี้รวม
ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า (3 ดาว – 4 ดาว)
ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่นไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง (ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์)
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก.และมากกว่า 2 ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้
ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศเชก (ผู้ยื่นวีซ่าต้องชำระเงินตรงกับศูนย์ยื่นวีซ่าในวันยื่น เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 3,000 บาท)
ค่าทิปพนักงานขับรถ และไกด์ท้องถิ่น (18 ยูโร)
ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (โดยมาตรฐาน 3 ยูโร ต่อคน ต่อวัน : 10 x 3 = 30 ยูโร)
เงื่อนไขการจอง
1. ชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิวยื่นวีซ่า ภายใน 3 วันนับจากวันจอง
หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการจองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่
ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะและยื่น
รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนการจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ
ทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 20 วันก่อนการเดินทาง
หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็น
ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเหต
พิมพ์โปรแกรม : อิตาลี (มิลาน)-สวิส-ฝรั่งเศส-เยอรมัน-ออสเตรีย-เชก
10 วัน 7 คืน โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)
CODE TOUR : U173110BF_Italy_Swiss_France_Germany_Austria_Czech_10D_7N_EK_Oct-Dec18
ฟอร์มจองทัวร์ กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างนี้