ทัวร์กัมพูชา เที่ยวกัมพูชา แพคเกจกัมพูชา ข้อมูลกัมพูชาทัวร์กัมพูชา
เที่ยวกัมพูชา TOUR Cambodia
ทัวร์กัมพูชา ยู. แทรเวล วาเคชั่นส์ ให้บริการรับจัดทัวร์จีน ทุกเส้นทาง ทุกมณฑล ด้วยประสบการณ์จัดทัวร์กัมพูชามากว่า 10 ปี บริการรับจัดทัวร์กัมพูชา ทุกระดับ กรุ๊ปดูงาน บริษัทเอกชน คณะหน่วยงานราชกาล ทัศนศึกษาของสถานศึกษา หรือกรุ๊ปส่วนตัวแบบครอบครัว บริษัทฯมีความยินดีให้คำปรึกษา และคำแนะนำกับลูกค้าทุกท่าน เพื่อวางแผนการเดินทางให้ตรงกับวัตถุประสงค์ และงบประมาณให้มากที่สุด พร้อมทีมงานไกด์คุณภาพที่ชำนาญในเส้นทางอย่างแท้จริง ดูแลอย่างใกล้ชิด
ทัวร์ต่างประเทศ : ทัวร์กัมพูชา เที่ยวกัมพูชา ข้อมูลทัวร์กัมพูชา แพคเกจทัวร์กัมพูชา
ข้อมูลทัวร์ประเทศกัมพูชา
ประวัติศาสตร์กัมพูชา
บริเวณที่เป็นที่ตั้งของกัมพูชาในปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์สันนิฐานว่าเริ่มมีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (230-500 ปีก่อนคริสตกาล) โดยอาศัยหลักฐานเก่าแก่ คือ เครื่องมือหินกรวดที่ค้นพบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการค้นพบกระโหลกศีรษะและกระดูกมนุษย์ที่แหล่งโบราณคดีสำโรงเซน (Samrong Sen) ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาในยุคก่อนประวัติศาสตร์มีความคล้ายคลึงกับชาวกัมพูชาในปัจจุบัน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มออสโตรเอเชียติก (Astroasiatic)
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของกัมพูชา
ประเทศกัมพูชามีหลักฐานทางโบราณคดีว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เป็นดินแดนต้นกำเนิดของอาณาจักรโบราณหลายอาณาจักร ที่มีความเชื่อมโยงและมีความเป็นมาในประวัติศาสตร์ โดยแบ่งออกเป็นสมัยที่สำคัญ คือ
สมัยฟูนัน (Funan) เป็นห้วงเวลาที่ได้รับวัฒนธรรมจากศาสนาพราหมณ์ฮินดู ประเทศอินเดีย เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 นับถือพระศิวะ และพระวิษณุ (พระนารายณ์) มีการดัดแปลงตัวอักษรของอินเดียมาเป็นตัวอักษรเขมร ศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่มณฑล ไปรเวียงทางตอนใต้และลุ่มน้ำทะเลสาป รวมดินแดนที่เป็นของไทย สปป.ลาว และเวียดนาม ในปัจจุบันบางส่วน ส่วนพลเมืองมีเผ่าฟูนัน เขมร และจามซึ่งมีอยู่ทั่วไปในบริเวณตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำโขง
สมัยเจนละ (พ.ศ.1078-1345) ในระหว่างที่อาณาจักรฟูนันมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่นั้น มีดินแดนที่เป็นเมืองขึ้นอยู่อาณาจักรหนึ่งซึ่งขอมเรียกว่า อาณาจักรเจนละ ชื่อ "กัมพูชา" เริ่มในยุคนี้เนื่องจากกษัตริย์สมัยเจนละ ชื่อว่า "กัมพู" อาณาจักรเจนละแบ่งดินแดนออกเป็นอาณาจักรย่อยๆ คือ อาณาจักรตอนเหนือชื่อ "กุมพูปุระ" อาณาจักรตอนใต้ชื่อ "วิชัยปุระ" ต่อมากษัตริย์ของกัมพูปุระองค์หนึ่งทำสงครามมีชัยชนะ แล้วส่งกองทัพไปตีอาณาจักรฟูนันได้สำเร็จ จึงรวมเข้ามาอยู่ในอาณาจักรเจนละ
อาณาจักรเจนละเจริญรุ่งเรืองอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาอาณาจักรศรีวิชัยได้แผ่อำนาจเข้าไปในอินโดจีน อาณาจักรเจนละจึงตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรศรีวิชัย
สมัยขอมหรือนครวัด (พ.ศ.1345-1735) เมื่อประมาณ พ.ศ.1345 กษัตริย์กัมพูปุระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า "พระเจ้าชัยวรมันที่ 2" ครองราชย์อยู่ระหว่าง พ.ศ.1345-1412 ได้รวบรวมอาณาจักรกัมพูปุระและวิชัยปุระเข้าด้วยกัน ตั้งเป็นอาณาจักรใหม่เรียกว่า "อาณาจักรขอม"
พระองค์ได้กู้อิสรภาพของอาณาจักรขอมจากอาณาจักรศรีวิชัยเป็นผลสำเร็จ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ตั้งอาณาจักรขอมและมีอำนาจมากสามารถแผ่กระจายอำนาจออกไปจนทำให้อาณาจักรขอมแผ่ขยายออกไปกว้างขวางกินพื้นที่ถึงหนึ่งในสามของอินโดจีนเป็นระยะเวลาประมาณ 400 ปี ราชวงศ์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ได้ครองอาณาจักรขอมจนถึงปี พ.ศ.1420 จึงได้ขาดสายลง และได้มีราชวงศ์ใหม่
โดยมีปฐมราชวงศ์ คือ พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 มีราชโอรสเป็นพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ.1432-1451 กษัตริย์องค์นี้ได้สร้างราชธานีขึ้นใหม่ที่นครธมต่อมาได้มีกษัตริย์อีกหลายราชวงศ์ จนถึงพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ซึ่งครองราชอยู่ระหว่างปี พ.ศ.1655-1695 เป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจสูงสุดในประวัติศาสตร์ขอม พระองค์ได้ทรงให้สร้างนครวัด และทำสัญญาไมตรีกับจามและจีน
สมัยเป็นเมืองขึ้นของเมียนมาและไทย (พ.ศ.1600-2410) อาณาจักรขอมรุ่งโรจน์สูงสุด แล้วก็ค่อยๆ เสื่อมอำนาจลง เนื่องจากถูกเมียนมาสมัยพระเจ้าอโนรธามังช่อเข้ามารุกรานและยึดเป็นเมืองขึ้น ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว อาณาจักรขอมยังไม่ยับเยินมากนัก ยังพอตั้งตัวได้ใหม่ในระยะอีกเกือบประมาณร้อยปี
ต่อมาจนถึงสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชของไทย ขอมถูกขับไล่ออกจากดินแดนที่เป็นของประเทศไทยในปัจจุบันได้หมด อำนาจของอาณาจักรขอมได้หมดลงประมาณปี พ.ศ.1890 นับแต่นั้นมาอาณาจักรสยามก็รุ่งโรจน์ขึ้นแทนอาณาจักรขอมในดินแดนสุวรรณภูมิ
สมัยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส (พ.ศ.2400-2497) อาณาจักรกัมพูชาได้เสื่อมลงเป็นลำดับ จนตกเป็นประเทศราชของไทย ต่อมาฝรั่งเศสได้เข้ามารุกรานและแสวงเมืองขึ้นอินโดจีน กัมพูชาได้ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.2406 กัมพูชาถูกควบคุมทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม ในปี พ.ศ.2407 รัชกาลสมเด็จพระนโรดมบรมรามเทวาวตารได้ทรงย้ายราชธานีของกัมพูชาจากกรุงอุดงค์มีชัยมาตั้งอยู่ที่กรุงพนมเปญ ต่อมาในปี พ.ศ.2410 ฝรั่งเศสได้บีบบังคับให้ไทยทำสัญญายินยอมรับรองอำนาจของฝรั่งเศสในการคุ้มครองอารักขากัมพูชา
หลังสงครามมหาเอเชียบูรพาเมื่อปี พ.ศ.2488 ฝรั่งเศสกับกัมพูชาได้ทำความตกลงเมื่อปี พ.ศ.2489 ให้กัมพูชาปกครองดินแดนตนเอง โดยรวมอยู่ในสหภาพฝรั่งเศส กัมพูชาได้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเมื่อปี พ.ศ.2490
เมื่อปี พ.ศ.2497 ฝรั่งเศสปราชัยในการรบกับเวียดมินห์ ที่เมืองเดียนเบียนฟู เป็นเหตุให้ต้องเปิดการประชุม 14 ชาติ ที่เมืองเจนีวา เพื่อนำสันติภาพมาสู่อินโดจีน ความตกลงเจนีวาในครั้งนั้นกำหนดให้ฝรั่งเศสมอบเอกราชแก่เวียดนาม สปป.ลาว และกัมพูชา กัมพูชาจึงได้เป็นเอกราชอย่างสมบูรณ์ โดยมีสมเด็จพระนโรดมสีหนุทรงเป็นกษัตริย์ในช่วงรอยต่อของประวัติศาสตร์
ครั้งถึง ปี พ.ศ.2498 ทรงสละราชสมบัติ แต่ยังกุมอำนาจไว้ในฐานะนายกรัฐมนตรี ประมุขของประเทศ และประธานาธิบดีในปี พ.ศ.2513 นายพลลอน นอล ก่อรัฐประหาร สมเด็จพระนโรดมสีหนุต้องเสด็จลี้ภัยไปยังปักกิ่ง และได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับคอมมิวนิสต์เขมรแดง เมื่อรัฐบาลเขมรแดงยึดอำนาจได้ในปี พ.ศ.2518 จึงทรงเสด็จกลับคืนสู่พนมเปญ แต่พระองค์กลับถูกพันธมิตรกักตัวไว้ หลังเวียดนามขับไล่รัฐบาลเขมรแดงออกไปในปี พ.ศ.2522 พระองค์ทรงตั้งตนเป็นประธานาธิบดีพลัดถิ่นของแนวร่วมต่อต้านเวียดนาม ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีนและเกาหลีเหนือ
สงครามในกัมพูชาที่เรียกว่า "สงครามเขมรสามฝ่าย" ได้ยุติลงจนสหประชาชาติเข้าไปช่วยเหลือจัดการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2536 ซึ่งพรรคของสมเด็จพระนโรดม รณฤทธิ์ ชนะเลือกตั้งแต่ทางฝ่ายสมเด็จฮุน เซน ไม่ยอมรับ แต่ในที่สุดก็เกิดการประนีประนอมตั้งรัฐบาลร่วมกัน ประเทศกัมพูชาจึงเป็นประเทศแรกในโลกที่มีหนึ่งรัฐบาลแต่มีสองนายกรัฐมนตรี คือ สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ และสมเด็จ ฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันสมเด็จฮุน เซน ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา